Guest
หมวดหมู่ > เว็บบอร์ด จับฉ่าย

ช่องทางการติดต่ออื่น

  • Munkonggadget
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Contact Us

รีวิว TTpod T2 - ReBirth Project ครับผ้ม !

longhorn

26/03/2015 23:58:50
47
>> เกริ่นนำ

เริ่มมาจากที่ผมมีเพลเยอร์ตัวนึง Hum Pervasion แล้วเกิดความคันตอนได้คุยกับคุณ Gemmy คนขาย เรื่องการโมซอฟต์แวร์กับคุณนนท์ Windows X เลยไปตามหาประวัติของชายคนนี้ ก็เห็นมีการทำ DX90, DX50 modded เต็มสูบกัน ฟีดแบ็คเองก็ไม่แย่เลย แล้วพอได้ฟังจากผลงานที่เค้าทำก็เลยเริ่มวางใจละ ว่าถ้าเอาเพลเยอร์นี้ไปทำอะไรซนๆ น่าจะมั่นใจได้ว่า อย่างน้อยๆมันคงไม่แย่ลงอ่ะ (แม้จะแอบกลัวเบาๆ) แล้วพอติดต่อไปช่วงนั้น คุณนนท์ก็เปิดโปรเจ็คนี้ TTpod T2 - Rebirth Project ขึ้นมา ผมเลยได้ลองฟังตอนที่ใกล้เป็นตัวสำเร็จแล้ว ก็ถูกใจขึ้นมาว่าแบบ เฮ้ย มันอัพขึ้นได้ขนาดนี้เลยหรอ จากไอ้ตัวเดิมๆเนี่ย แต่ว่าด้วยคุณภาพขนาดนี้ มันก็ดันจะไปใกล้กับหูฟังที่มีอยู่กับตัวตอนนี้ เลยเว้นไปไม่ได้จัด จัดแค่เพียงทำ SW HW ให้เพลเยอร์ไป แต่เจ้ากรมมนายเวรคงไม่อยากให้ผมหนีพ้น หูฟังประจำตัวดันพังซะฉิบ (บ้าจริมๆ) ก็เลยกัดฟันกินมาม่า เพราะไม่ได้สำรองงบไว้สำหรับเหตุฉุกเฉินขนาดนี้ ว่าคงต้องถอยแล้วล่ะ ไม่งั้นจะขาดใจตาย (ha) ก่อนแน่นอนถ้าไม่ได้ฟังเพลง ก็เลยไปตามหา TTpod T2 มาเมื่อได้มาก็จัดการเบิร์นด้วยสูตรเฉพาะก่อนนำไปโม ซึ่งผลออกมาก็ไม่ผิดหวังครัช ;)


>> ปลากัด .. เอ้ย ! ประกาศ

คุณนนท์ไม่ได้จ้างไรผม ผมไม่ได้สนิทสนมอะไรกับเค้า แม้จะได้ไปทำกับเค้าสองงานมาแล้ว รีวิวนี้เกิดขึ้นมาด้วยความคันของตัวเองล้วนๆ ที่อยากให้คนได้มาลองว่า ค่าตัว 2990 + 1800 มันขึ้นไปเทียบกับอะไรได้ แล้วมันเทียบกันว่ามันคุ้มราคากับ 1800 ที่เพิ่มไปไหม ทำให้รีวิวนี้มาจากความอยากรีวิวสิ่งที่ได้มา และความอยากลองเขียนรีวิวกับเค้าบ้างล้วนๆ ไม่มีพิศวาสในตัวเจ้าของโปรเจคแต่อย่างใด (แอร๊ย~) และรีวิวนี้ผมจะเขียนตามลักษณะการรีวิวของ Brookos แห่ง head fi ในรีวิว DN2000 นะครับ ดังนั้นหากเห็นการแบ่งหัวข้อเหมือนๆกันบ้าง ไม่ต้องทักครับ ผมลอกเค้ามา 555+


>> อุปกรณ์ที่ใช้

หูของผม (แน่นอนล่ะ ไอ่บ้า!) ซึ่งเป็นหูถั่วๆคู่หนึ่ง อาจจะยังแยกแยะอะไรได้ไม่เทพพอจะอ้างอิงได้ซะ 100% ก็ถือซะว่าฟังหูไว้หูไปละกันครับ

ในการทดสอบครั้งนี้ ผมพยายามไม่ทำให้มันไกลจากมือใหม่ เพราะผมเองก็มือใหม่ และหูตัวนี้เองก็ไม่ได้ขับยากมากมาย การทดสอบจึงมาจากพื้นฐานง่ายๆ เช่นต่อตรงจากมือถือ Galaxy note 3 ที่ไม่ผ่านกระบวนการใดๆ นอกจากโหลดแอพมาติด และการต่อตรงจากเพลเยอร์ของผม HUM Pervasion เท่านั้น

ไฟล์เพลง จะเป็นเพลงตลาดๆทั่วไป ไปจน Audiophile บ้าง แต่เน้นเพลงตลาด ตั้งแต่ mp3 192kbps ไปจน flac wav 24 bits (แต่แท้ไหม ไม่รู้ ผมหูถั่ว 55) แต่อุปกรณ์อาจจะยังไม่เอื้อให้ เล่นไฟล์รายละเอียดสูงได้เต็มที่ จึงอาจจะออกมาไม่เป็นความละเอียดเต็มๆ นะครับ

ส่วนหูที่นำมาเทียบบ้าง เพื่อเป็น reference จะเป็นหูของคุณแฟน คือ UE900s สาย Rhapsodio รุ่น PANTHER MK2 (CU) 7N Mono Crystal Copper (ถักแปด) อาจจะมีการกล่าวถึงหูอื่นๆบ้าง แต่หูตัวนี้จะเป็นตัวหลักที่เทียบ เพราะผมสามารถเทียบ A/B ได้เลย

ส่วนของจุก ผมจะใช้จุกสองแบบ คือจุกแดงที่แถมมา กับจุก Spin fit นะครับ แต่ผมจะรีวิวแค่ในส่วนของ Spin fit เพราะมัน match ออกมาในเสียงที่เป็นสไตล์ที่ผมชอบดี


>> รีวิว SOUND QUALITY

ก่อนจะเริ่ม ผมจะบอกว่า หูได้รับการเบิร์นก่อนโม ประมาณ 30 hr และหลังโมอีก 12 hr โดยประมาณทั้งคู่ ซึ่งแจ้งไว้เลยว่า ยังไม่พ้นระยะเบิร์นไดรเวอร์ แล้วก็ R, ตะกั่ว (ละมั้ง) ครับ

> เอกลักษณ์ภาพรวม

ถ้าจะสรุปแบบสั้นก่อน ผมคงจะบอกว่ามันค่อนข้างเป็นหูที่ 'flat' ครับ, 'balanced' อยู่พอประมาณ, 'clear' นะสำหรับผม แต่ยังไม่สุด และ 'detailed' ค่อนข้างดี (แน่นอนละ hybrid driver)

> รายละเอียดโดยรวม / Clarity

ผมลองฟังกับเพลงที่เป็นการแสดงสดหรือมีเครื่องดนตรีมากๆ พบว่า แยกรายละเอียดได้ค่อนข้างดีเลยนะครับ จะน้อยกว่า UE900s ไม่มากเลยด้วยซ้ำ เพียงแต่ด้วยเนื้อเสียงที่ใสแบบไม่สุด (หรือเพราะยังเบิร์นไม่ครบ) อาจทำให้มันฟังดูแยกรายละเอียดได้ไม่ดี แต่หากลอง focus ดูแล้ว จะพบว่ามันมันทำได้ดีเลยทีเดียวเชียว อย่างน้อยๆ ในเพลง La fogata และ Small town ของ Eric Tingstad & Nancy Rumbel ผมก็ฟังแยกเส้นกีตาร์ พริ้วๆ แต่ละเส้นได้ชัดเจนเลยแหละครับ บรึ๋ยๆ

> เวทีเสียง และ image

ผมใช้เพลง Amber Rubarth’s binaural recording เพลง “Tundra”แบบลอก Brookos มาเบยละกันครับ ด้วยความไม่อยากคิดเยอะ อิอิ

หนึ่งเลย มันให้เสียงที่แยกซ้ายขวาได้ดีขึ้นครับ เพราะเนื้อเสียงมันดูชัดขึ้นจากก่อนโมมาก ทำให้ไม่ขุ่นทั้งสองข้างจนต้องโฟกัสเหมือนช่วงแกะกล่อง สอง คือ พอเนื้อเสียงทั้งหมดชัดเจนขึ้น ทำให้เริ่มเห็นภาพเวทีเสียงของมันได้ดีขึ้น มันเป็นหูฟังที่มีเวทีเสียงกว้างกว่าที่คิดไว้ในช่วงราคาเท่านี้ อย่างน้อยๆ คือทำได้ใกล้เคียงกับ TF10 และ DN1000 ที่ผมเคยฟัง มันมีความกว้างในแนวขวางที่อยู่ในเกณฑ์ที่ใช้ได้เลยครับ แต่แนวลึกไม่ค่อยลึกมากนัก แต่กระนั้น ในเพลงที่มีการเล่นลุกเล่นให้มีเสียงเหมือนรอบหัวไปมา ก็ยังรับรู้ได้ถึงเสียงในลักษณะนั้นได้อยู่

ส่วนตำแหน่งเสียงของแต่ละเสียง เสียงคนร้อง เสียงเครื่องดนตรีแต่ละชิ้น จะวางไว้ค่อนข้างใกล้กัน ไม่ค่อยมี space เท่าไหร่นัก ทำให้บางคนอาจจะอึดอัดบ้าง หรืออาจจะไม่เหมาะกับเพลงบางแนวบ้าง แต่สำหรับผม มันยังอยู่ในระดับที่โอเคนะ

> คุณภาพและปริมาณเบส

อันเดิมๆ มันให้มาดีแล้วประมาณนึง เบสมาเร็ว แต่เก็บตัวช้าเล็กน้อย ค่อนข้างกระจาย แต่ผมว่ามันดีกว่านี้ได้อีก ซึ่งหลังทำให้ออกมา มันก็ช่วยส่วนนี้ไปพอสมควรทีเดียวครับ เบสใหม่นี้มีคุณภาพมากขึ้นครับ ไม่ฟุ้งเท่าตอนแรก สามารถจับได้ชัดเจนเลย แม้จะยังไม่ได้เข้าสู่ช่วงเบิร์นเบส ลองฟัง Royals ของ Lorde แล้วก็ยังไม่เสียอารมณ์ของเพลงมันนะครับ แม้เบสจะไม่ได้มากแบบ bass head ก็ตามที แต่แล้วอะไรก็ไม่รู้ ดลใจผมให้ไปลองหาดูเกี่ยวกับหูตัวนี้ ผมก็เจอครับ เจอเคล็ดลับที่ช่วยให้เบสมันดีขึ้น ผมอ่านแล้วก็คิดว่าตลกดีด้วยความที่ไม่มีความรู้อะไรเกี่ยวกับมันว่าจะส่งผลยังไง แต่ก็ลองทำดูเพราะง่ายดี ด้วยการเอาเทปปิดรูสองรูที่บอดี้ รูแรกตรงกลางด้านในกลมๆเลยครับ อีกรูอยู่ด้านข้างเป็นสี่เหลี่ยม เสร็จแล้วให้เอาเข็มเจาะรูเทปเล็กๆครับ ไม่ต้องใหญ่เท่ารูเดิม พอมาลองฟังแล้ว เออเว้ย มันช่วยว่ะเว้ย เบสลูกสวยขึ้น อิมพ่ง อิมแพคเริ่มมามากขึ้น แล้วยังช่วยเนื้อเสียงย่านอื่นๆอีก แม้ว่าจะทำออกมาแล้วดูเหมือนหูฟังพังแปะเทปไว้ก็เถอะ เอิ๊กๆ วิธีนี้ใช้ได้ทั้งตัวโมและไม่โมครับ เบสที่ออกมาทำได้ดีในระดับหูฟังราคา 8k-9k แล้วล่ะครับ สำหรับผมนะ แค่เพียงมันไม่มีอิมแพคที่ดีเท่านั้นเอง

> เสียงกลาง เสียงร้อง

ผมค่อนข้างไม่คล่องเรื่องนี้ เพราะยังประสบการณ์น้อยเลยยังไม่สามารถแยกได้ ว่าอันไหนดีหรือไม่ดี แต่ผมลองเทียบกับหูที่เคยฟัง ก็พบว่ามันทำเสียงร้องและเสียงกลางได้ดีกว่า DN1000 และใกล้เคียงกับ UE900s แม้เนื้อเสียงจะยังไม่มากเท่าหูตัวหลังก็ตามทีก็เถอะ แต่ทำได้ใกล้เคียงก็ถือว่าคุ้มราคาแล้วป่ะครับ (อ่านไปอ่านมาเหมือนประโยคปลอบใจตัวเองแปลกๆ = =) และเสียงหลังโม ยังทำให้ฟังได้ง่ายขึ้นกว่าก่อนโมมากครับ ค่อนข้างมีเนื้อหนังที่ดูมีราคามากขึ้นอีกเท่าตัวเลย

> เสียงสูง

เป็นเสียงสูงที่เคลียร์ขึ้นมากเมื่อเทียบกับก่อนโม รายละเอียดต่างๆ โผล่ให้เห็นชัดขึ้นมากมาย มีความใสมากขึ้น เนื้อเสียงดูมีราคามากขึ้นเยอะกว่าตอนแรก ที่ดูแปลกๆเหมือนโดนกลบ โดนฝัง แต่ยังคงลักษณะเดิมบางส่วน คือ ปลายไม่แหลมเฟี้ยวในแบบที่ กริ๊งงง งิ้ง งิ้งงง ไรแบบนั้น ข้อดีมันก็คือทำให้คุณได้ฟังเสียงสูงที่มีรายละเอียดดี แต่ไม่เสียดหูครับ


>> สรุปจบ ตัดจบ

เนื่องจากความสามารถระดับผมจึงบรรยายได้ไม่มากมายนัก และสามารถแถได้เพียงเท่านี้ จึงขอเข้าสู่การสรุปดังนี้ครับ สำหรับคนที่ลังเลมีอยู่ในมือ มีทางเลือกสองทาง คือ หนึ่ง ขายให้คนอื่นเพื่อให้เค้าเอาไปโม (เอ้าเฮ้ย ฮ่าๆ) หรือ สอง เอาไปโมซะเอง สำหรับผมมันเป็นราคาที่สูง ใช่ครับ หลายคนก็บ่นในหลายๆที่ ว่าเออ มันแพงนะเว้ย เกือบเท่าราคาหูแล้วค่าโมเนี่ย แน่ะ อย่าเพิ่งคิดมากเลยครับ คนทำเค้าก็แฟร์ ที่ให้ลองไปฟัง ไม่ชอบก็ไม่ว่ากัน ไม่ต้องทำ ขายทิ้งก็ได้เดี๋ยวก็มีคนเอา แต่สำหรับผม ผมว่ามันก็คุ้มค่านะครับ กับเสียงที่ได้ออกมา มันที่รวมค่าโมแล้วสามารถสู้กับหูอื่นที่ราคาสูงกว่าเท่าตัวหรือสูงกว่านั้นได้อย่างใกล้เคียง ชกกันคิ้วแตกทั้งคู่แบบนี้ กรณีสำหรับคนที่ยังไม่มี แต่สนใจผมก็ให้เงินในประเป๋าคุณตัดสินเลยละกันครับ ว่าคุ้มไหม โดยเสียงนี้มันยังไงไม่เบิร์นจะตกผลึกเลย ผมเชื่อว่า เมื่อเบิร์นตามสูตรที่เหมาะสมแล้ว มันน่าจะออกมาแจ่ม แหล่มแมวกว่านี้อีกครับ

แต่สำหรับคนที่ยังไง้ ยังไงก็ไม่สนใจเลยที่จะลองทำ ผมก็แนะนำว่าหูนี้ค่อนข้างเรื่องมากเรื่องจุก จุกที่ให้มานั้น ผมว่าจุกโฟมและจุกแดงให้เสียงค่อนข้างที่จะฟังได้หลากหลายแนวกว่าสีน้ำเงิน แต่ที่ผมชอบที่สุดคงจะเป็นจุก spinfit ครับ แต่อาจจะหาได้เฉพาะที่หน่อย ลองค้นกูเกิ้ลดูครับ มีขายในไทยนี่แหละ จะให้เสียงค่อนข้าง over all และ clear กว่า ที่แนะนำเพราะว่ามันเป็นจุกที่หาซื้อขายได้ทั่วไป ไม่ต้องหาจากหูตัวอื่น ทำให้หาได้ไม่ลำบากนัก และอีกเรื่องที่แนะนำคือการดัดแปลงช่องอากาศที่มีการแปะเทปสี่รูข้างละสอง แล้วเจาะรูนั้น สามารถช่วยให้เสียงดีขึ้นมาเยอะครับ ทุกย่านเลยครับ แถมไม่เสียอะไร นอกจากเทปใส และเข็มเท่านั้นเอง ;P

หูตัวนี้ ผมว่าหลายๆคนที่รีบขาย เพราะเสียงแกะกล่องมันไม่ไพเราะเอาซะเลย ผมเองลอง ก็ยังไม่อยากยุ่งเลยครับ แต่พอผ่านเบิร์นมันก็ดีขึ้นเองครับ อย่าเพิ่งไปตัดสินมัน ขนาดผมยังไม่โมก็ยังเปลี่ยนใจ ว่าเออ มันก็มีดีอยู่บ้างนะ ไม่ใช่ว่ามันกากขนาดนั้น แค่เราต้องเบิร์นอย่างเหมาะสมเท่านั้นเองครับ ให้เวลากับมันหน่อย 100 hr ก็น่าจะเข้าที่จนเห็นชัดถึงความแตกต่างละครับ




ยังไงก็หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์แก่คนอื่น และต้องขออภัยด้วยที่มันอาจจะดูอ่านไม่รู้เรื่อง หรืออาจจะอธิบายได้ไม่เหมาะสมยังไงก็ขออภัยนะครับ มันคันอยากจะลองเขียนกับเค้าบ้าง เลยกลั้นใจบ้าลองดูสักทีนึง ติชมกันได้ แต่อย่ารุนแรงเลยครัช ถือซะว่าสอนเด็กตาดำๆ =/\=

ขอบคุณเคิ้บบบ :)
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 1

sittiphong

27/03/2015 18:37:02
เท่าที่ได้ลองสัมผัสฟังมานะ

ตามความเห็น น่าจะทดลองใช้จุกหูฟังซิลิโคน Shure E2 จะได้การ seal เสียงภายนอกได้ดี
ก็เลยทำให้การฟังสามารถสัมผัสเสียงเบสได้ชัด โดยเฉพาะเส้นเสียงที่เกิดจากการดีดเส้น string

ส่วนเสียงหน้ากลอง เท่าที่ฟังมา ผมยังให้เป็นลองหูฟังของ Westone UM2 อยู่นะครับ

เสียงร้อง แน่นอนว่า ในสภาพยังไม่ Mod มันก็เน้นเสียงกลางจนล้น
แต่หลัง Mod เสียงกลางก็ยังฟังได้นวลอยู่ แต่จะไม่มาบังเหมื่อนก่อน Mod

เสียงย่านความถี่สูง อันนี้ยังจัดว่า ยังไม่เปิดมาก แต่ก็ยังฟังสัมผัสได้

ส่วนความกว้างของย่านเสียง หลัง Mod ทำได้ดีมาก เสมือนนั่งฟังถอยมาหน่อย ทำให้การฟัง
แยกแยะช่องเสียง ตำแหน่งของชิ้นดนตรี ฟังได้เนียนขึ้น ไหลลื่นขึ้น

ส่วนถ้าใช้จุกหูฟัง UE เสียงจะได้เปิดยิ่งขึ้น แต่เส้นเสียงเบส จะได้ไม่ดีเท่า
เพราะตัวโน้ตไม่ชัดเท่าการฟังจากจุก Shure

แค่ผ่านมาแชร์ประสบการณ์เล็กน้อยนะครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 2

m and m

27/03/2015 21:10:28
38
ใช้ Hum เหมือนกันเลย อ่านแล้วชักคันนิดๆ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 3

longhorn

27/03/2015 21:41:03
47
@m and m
ทำทั้ง sw และ hw ออกมาใช้ได้เลยครับ เสียงน่งขึ้น แต่ที่เห็นได้ชัดคือพื้นหลังสงัดขึ้นครับ ไว้ว่างๆมาลองฟังไหมครัช อิอิ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 4

longhorn

30/03/2015 20:42:56
47
สำหรับคนที่มี TTpod T2 ธรรมดา ลองเอาเทปปิดรูด้านข้างแล้วก็รูด้านหน้า Dynamic driver นะครับ เสร็จแล้วเอาปลายเข็มจากรูใหม่ เป็นรูเล็กๆลงที่ทั้งสองรูดูครับ จะทำให้เสียงดีขึ้น เบสก็มีอิมแพคขึ้น หรือถ้าอยากได้เบสอิมแพคขึ้นอีก เจาะรูเดียวครับ ที่หน้า Dynamic driver พอ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
"รีวิว TTpod T2 - ReBirth Project ครับผ้ม !"