Guest
หมวดหมู่ > เว็บบอร์ด จับฉ่าย

ช่องทางการติดต่ออื่น

  • Munkonggadget
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Reviews
  • Munkonggadget Contact Us

DAC (Digital to Analog Converter) คืออะไร? ทำไมมันจึงมีผลต่อเสียง?

หมูหวาน

25/03/2015 18:45:15
573



คำว่า DAC หลายๆท่านคงคุ้นๆหูกันมาบ้างแล้วนะครับ เพราะหลังนี้ได้รับความนิยมอย่างสูง เพราะว่ามันมีผลต่อคุณภาพเสียงโดยตรง ซึ่งจริงๆแล้ว DAC พวกเราก็ใช้กันมานานหลายสิบปีแล้วครับ แต่เราไม่รู้ว่ามันอยู่ข้างในเครื่องเล่นเพลง มือถือ หรือคอมพิวเตอร์อยู่ตลอดเวลา เพราะเครื่องกำเนิดเสียงที่เล่นไฟล์ดิจิตอลทุกเครื่อง จะต้องมีภาค DAC อยู่ในตัว ถึงจะผลิตเสียงให้เราฟังได้ครับ ยิ่ง DAC ดีขึ้นเท่าไร คุณภาพเสียงยิ่งฟังดีขึ้นแบบชัดเจนเลยล่ะ ยกตัวอย่างเครื่องเล่น CD Audio แล้วกันครับ เครื่องที่แพงๆนั้น เพราะเค้าใส่ภาค DAC แจ๋วๆไว้ให้ข้างใน ทำให้เสียงดีกว่าเครื่องเล่น CD ธรรมดาๆครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 1

หมูหวาน

25/03/2015 18:45:31
573



DAC เป็นส่วนหนึ่งของประมวลผลอิเล็กทรอนิกส์ ที่ทำหน้ารับสัญญาณดิจิตอลจากไฟล์เพลงของเรา เพื่อถอดออกมาเป็นเสียงให้เราฟัง ซึ่งข้อมูลเพลงที่เราป้อนให้กับ DAC นั้น จะเป็นสัญญาณแบบเปิดกับปิด หรือ 0 กับ 1 ที่เรียงกันเป็นชุดๆ เพื่อนำข้อมูลเหล่านี้ไปประมวลผล กลับมาเป็นเสียงเพลงอีกครั้ง ซึ่งมีหน้าที่สำคัญมากๆในชุดฟังเพลงของเรา ซึ่งแน่นอนว่า DAC คุณภาพสูงๆนั้นจะสามารถถอดสัญญาณเสียง ได้เหมือนต้นฉบับ และให้เสียงที่น่าฟังกว่าครับ ถ้ายังนึกภาพไม่ออกเดี๋ยวผมเอาตัวอย่างง่ายๆให้ดูดีกว่าจ้าา
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 2

หมูหวาน

25/03/2015 18:46:16
573



จากภาพเราจะเห็นข้อมูลจุดสีน้ำเงินครับ นี่เป็นตำแหน่งการเก็บตัวอย่างของไฟล์เพลงเรา ซึ่งเป็นรูปแบบของดิจิตอลเช่น 01011000 01001111 10110110 ไปเรื่อยๆแบบนี้ครับ โดยส่งเป็นชุดๆตามที่ผมทำเว้นวรรคให้ดูง่ายๆ เป็นตำแหน่งอ้างอิงของแต่ละจุดครับ และ DAC ก็จะเอาข้อมูลเหล่านี้ไปสร้างสัญญาณเสียงจำลองขึ้นมาให้เรา

ยกตัวอย่างของ DAC A ครับ DAC ตัวนี้ก็ทำหน้าที่สร้างสัญญาณ Analog ขึ้นมาจากข้อมูลที่ได้รับ ซึ่งแน่นอนว่ามันจะต้องช่องว่างระหว่างจุด ทำให้ DAC A ต้องมีการคำนวนและสร้างสัญญาณเสียง ให้ดีที่สุด เพื่อให้เสียงใกล้เคียงกับต้นฉบับก่อนที่จะเป็นไฟล์เพลงครับ ซึ่งหน้าที่การเดาตรงนี้สำคัญมากๆๆ ทำให้เกิดความแตกต่างของเสียงขึ้นมาครับ ผมลองลากเส้นสีเขียวแทนสัญญาณ Analog ที่ DAC A สร้างให้เราครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 3

หมูหวาน

25/03/2015 18:46:29
573



ส่วนอันนี้เป็น DAC B ที่มีความสามารถสูงกว่า DAC A เพราะสามารถสร้างสัญญาณได้ Smooth และใกล้เคียงต้นฉบับมากกว่าครับ ซึ่งแน่นอนว่า DAC B ย่อมสามารถปล่อยเสียงเพลงมาให้เราได้ไพเราะกว่า ซึ่งจริงๆแล้วมันเป็นศาสตร์ในการออกแบบที่ยุ่งยากมากๆครับ ถ้าต้องการจะให้ DAC ตัวนึงนั้น ให้เสียงที่ดี ยิ่งฟังเพลง Bit Rate ต่ำๆแล้วเสียงดีได้นั้น ยิ่งต้องดีไซน์เก่งเป็นพิเศษเลยครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 4

หมูหวาน

25/03/2015 18:46:44
573



และในความเป็นจริงแล้วการทำงานของ DAC ตัวนึง ยังมีอีกหลายๆอย่าง ที่ส่งผลต่อเสียง ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง Clock หรือ Jitter หรือแม้กระทั่งภาคขยายสัญญาณอนาล็อค ที่ทำงานต่อจาก DAC ก็มีผลต่อเสียงเหมือนกันครับ ที่นี้ก็พอเข้าใจหลักการทำงานของ DAC แบบง่ายๆกันแล้วนะครับ จะได้หายสงสัยว่าทำไมตอนนี้เราถึงต้องหา DAC ดีๆซักตัวมาใช้งานครับ ^^
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 5

TMY168

26/03/2015 10:21:58
3
ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 6

SounDFeVeR

26/03/2015 10:34:59
0
เข้ามาอ่าน และเก็บบุ้คมาร์สเอาไว้ ขอบคุณมากๆครับผม
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 7

หมูหวาน

26/03/2015 11:55:09
573
ขั้นตอนการทำงานของ DAC นั้นซับซ้อนมากๆๆครับ ยิ่งขั้นตอนในการทำ Filtering หรือพูดง่ายๆก็คือ
การสร้าง Algorithm เดาสัญญาณที่ควรจะเป็น เพราะ Sampling Rate ทางดิจิตอลยังไงก็มีรอยต่อครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 8

นายมั่นคง

26/03/2015 12:14:56
4,282
จัดไปครับน้าหมูหวาน 555
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 9

สมัครเล่น

26/03/2015 19:50:00
412
ขอความเห็นครับ
ถ้าสตูดิโอที่อัดเสียง เลือกใช้ a2d ตัวไหนเข้ารหัส ควรจะใช้ d2a ยี่ห้อนั้นถอดรหัส
ถึงจะได้ผลที่ใกล้เคียงต้นฉบับมากที่สุดใช่ไหมครับ
แต่เราก็มักรู้จักกันแต่ตัวถอดรหัส ไม่ค่อยรู้จักตัวเข้ารหัส
เพราะเป็นเรื่องของคนอัดเสียง และมักไม่บอกว่าใช้อะไร
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 10

หมูหวาน

26/03/2015 23:36:09
573
จริงๆเราสามารถใช้ DAC แบบไหนก็ได้ครับ ไม่ซีเรียสถึงขนาดกับเป็นยี่ห้อเดียวกัน
แต่บุคคลิคเสียงอาจจะแตกต่างกันออกไป ซึ่งบางทีเราอาจจะไม่ชอบเสียงในเครื่อง DAC ของ Studio ก็ได้ครับ

สิ่งที่ผมคิดว่าสำคัญก็คือเรื่อง Clock ครับ ถ้าทั้ง Studio และ ฝั่ง DAC ใช้ Clock ที่คุณภาพสูงๆ
ผลออกมาย่อมดีแน่ๆครับ เพราะตำแหน่งของสัญญาณที่ถอดดออกมาจะแม่นยำ ไม่เหลื่อมล้ำ ที่ทาง Digital เรียกว่า Jitter ครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 11

สมัครเล่น

27/03/2015 10:34:06
412
นั่นแสดงว่า จริง ๆ แล้ว คนอัดเสียง อยากจะถ่ายทอดเสียง
ให้ได้ตามที่ตัวอยากให้เป็น แต่คนรับฟัง ก็อยากได้อย่างที่ชอบ
เปรียบเสมือน คนทำอาหารที่ตั้งใจปรุงแล้ว พอเสริฟมาถึงคนกิน
ก็ปรุงเครื่องปรุงซ่้ำอีก แบบนั้นแน่ ๆ เลยครับ

เล่นกับนามธรรม นี่มันตัวแปรเยอะจริง ๆ ครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 12

l2esurection

27/03/2015 11:46:11
62
เอา Clock แบบกระดาษ a4 ครัชพี่หมูหวาน ถถถถถ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 13

หมูหวาน

27/03/2015 12:58:59
573
@พี่สมัครเล่นครับ
ใช่แล้วครับคนเราไม่ค่อยสนว่ารสอาหารต้นตำหรับ ตามตำราเป็นอย่างไร
แต่ถ้าเชฟคนไหนปรุงได้ถูกปากเรา เราก็ชอบมากกว่าครับ ซึ่งจริงๆก็ไม่ผิดกติกานะครับพี่ ^^
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 14

สมัครเล่น

27/03/2015 15:23:11
412
ถามนอกเรื่องครับคุณหมู
dac19 dsp ตัวเก่า up dsp ตัวใหม่ในเวอร์ชั่น 10 ปี ได้ไหมครับ
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
ความคิดเห็นที่ : 15

หมูหวาน

30/03/2015 11:03:29
573
เดี๋ยวผมขอสอบถามเจ้า Kingwa ให้ก่อนนะครับ ว่าทำได้รึป่าวจ้าาา
ให้กำลังใจ 0
หยิกหู 0
แจกหู 0
"DAC (Digital to Analog Converter) คืออะไร? ทำไมมันจึงมีผลต่อเสียง?"