1.เบิร์นไปเรื่อยๆ Grado ต้องสัก 500ชม
2.เบิร์นเพลงหลายๆแนว เน้นเพลงที่ชอบเป็นหลัก รายละเอียดดีๆ

เปิดเพลงหลายๆ แนวครับ ถ้า mp3 ก็ไฟล์ดีๆ หน่อย เปิดทิ้งๆ ไว้นั่นแหละครับ ความดังปกติที่ฟัง ไม่ต้องดังมากมาย ส่วนจะเบิร์นนานเท่าไหร่นั้นตอบไม่ได้แน่นอนหรอกครับ อย่างน้อยก็ 50 ชม. ขึ้นไปก็แล้วกัน พอให้ไดร์เวอร์ยืดเส้นยืดสาย ไม่ต้องซีเรียสกับการเบิร์นมากนัก จะทำให้เราฟังเพลงไม่มีความสุขเปล่าๆ

ในช่วงแรกของการเปิดเสียงหรือกระแสไฟให้เข้าไปในหูฟัง ถ้าเป็นไปได้หรืออยากให้หูฟังที่เราใช้มีเสียงที่
ได้แสดงประสิทธิภาพเต็มที่ ควรหาไฟล์เพลงดีๆเปิดนำไปก่อน(หรือ300ชม.ขึ้น)ถ้าเป็น24จะดีมากๆเพราะ
ให้ย่านความถี่ชัดเจนและสูง(เฮียมีปล่อยให้ฟรี). แต่ถ้าเป็นที่เรามีเพลงที่ราชอบและ24bitด้วย
จะดีมากไ เปิดไปเรื่อยๆพักบ้าง ด้วยความดังที่ประมาณ60%-80%.
ไม่นานเราจะได้หูฟังที่มีเสียงดีกว่าของรุ่นเดียวกัน ที่ไม่เบิร์นครับ

แต่ก็ต้องใช้ความอดทนพอสมควร.

เริ่มด้วย LA FOGATA ของ tracy chapman เพื่อปรับอิมเมจของเวที และการจัดวาง

เปิดเบากว่าปรกติให้เหลือประมาณ 65 - 70% จากที่ฟังปรกติ ลากยาวไปเลยครับ 24 ชั่วโมง

ที่เปิดเบาเพราะ Driver จะได้ไม่ร้อน พักซัก 2 ชั่วโมง

แล้วต่อด้วย shepherd of fire ของ Avenged Sevenfold อัลบัม hail to the king

เปิดเสียง 70 - 75% ยาวไปเลย 10 - 12 ชั่วโมง แล้วเชคว่าได้เบสมากพอหรือยัง

ถ้าอยกาได้อีกก็เปิดต่อจนพอใจ แล้วกลับมาซ้ำ LA FOGATA ของ tracy chapman

อีก 12 ชั่วโมง

หลังจากนี้ก็เบิร์น 8 ชั่วโมง พัก 1 ชั่วโมง

แล้วต่อด้วย dream theater อัลบัม the greatest hits วนทั้งอัลบัมเลย อีก 5 - 6 ชั่วโมง

เพื่อปรับหัวโน๊ต กับเสียงกลอง ลองฟังดูว่าแรงปะทะดีพอหรือยัง

ถ้ายังก็เปิดจนได้ผลลัพธ์ที่พอใจ

หลังจากนั้นกลับมา LA FOGATA ของ tracy chapman เปิดเบาๆ อีก 5 - 6 ชั่วโมง

หลังจากนี้ก็ลองฟังดูครับว่าอยากได้อะไรเพิ่ม

- อยากได้กลางเพิ่มใช้เพลงร้องผู้ชาย เช่นอัลบัม Audiophile Male Voice

- อยากได้เบสเพิ่มใช้ shepherd of fire ของ Avenged Sevenfold อัลบัม hail to the king

- อยากเพิ่ม sound stage ใช้ LA FOGATA ของ tracy chapman เปิดเบาๆ

- อยากได้ โฟกัสใช้เสียงพวกเครื่องเคาะ เช่น อัลบัม โหมโรง เพลงที่บรรเลงระนาด

- อยากได้แหลมเพิ่มก็เปิดพวกเพลง กรุ๊งกริ๊งๆ เช่น Music Box ครับ

การเบิร์นเวลาอะไรเกิน เราลดไม่ได้

ทำได้แค่เพิ่มอย่างอื่นให้มันขึ้นมา Balance กับเสียงที่เกินครับ

ที่เหลือขึ้นก็ลองหาเพลงที่มีความถี่ที่ต้องการมาเบิร์นดูครับ

เรื่องนี้ต้องเบิร์นไปฟังไปแก้ไป สอนทั้งหมดพิมพ์ 100 หน้าก็สอนไม่จบหรอกครับ

ชั่วโมงต้นๆของการใช้งานหูฟัง มันจะมีการเปลี่ยนแปลงได้มากกว่าเมื่อเราใช้ไปนานแล้วไงครับ เราถึงต้องเบิร์น Grado จะมีระยะเวลาในการเปลี่ยนนานกว่าเจ้าอื่นหน่อย ประสพการณ์ส่วนตัวก็ประมาณสี่ห้าร้อยชั่วโมงอย่าง Theeranai บอก แม้ว่าชั่วโมงท้่ายจะเปลี่ยนน้อยกว่าชั่วโมงต้นๆ... แต่ก็เปลี่ยน

การเปลี่ยนแปลง มักจะเปลี่ยนไปตามสิ่งที่เราป้อน ก็เป็นที่รู้กันว่า พยายามหาแหล่งกำเนิดเสิยงที่ดีที่เราหาได้ ไฟล์คุณภาพดีเท่าที่เรามี และ น่าจะใช้เพลงหลายหลายประเภท รวมถึงเพลงที่มีช่วงความถี่กว้างจากต่ำถึงสูง ให้ไดรเวอร์ได้ทำงาน

เพื่อให้ฟังเพลงได้มีความสุข เรามาวุ่นวาย(อย่างมีความสุข)ตอนเบิร์นนิดหน่อยครับ ขั้นตอนก็อย่างท่านdragonfing ว่าไว้ในความเห็น4 ผมก็มีขั้นตอนคล้ายๆกันครับ เริ่มๆจะเบาหน่อย แล้วดังระดับปกติ ช่วงท้าย ผมอาจจะอัดเป็นบางแผ่นบางเพลง เพื่อหวังผลจำเพาะ แล้วแต่กรณี เบิร์นไป เช็คไปครับ

ที่ผมได้ข้อสรุปสำหรับตัวเองอีกอย่างคือ เปิดเบาไป เสียงจะบาง(บางไป?) เปิดดังไป เสียงจะหนา(หนาเกิน?) แล้วผมเอาตรงนี้ไว้แก้บางอย่าง

"การเบิร์นเวลาอะไรเกิน เราลดไม่ได้

ทำได้แค่เพิ่มอย่างอื่นให้มันขึ้นมา Balance กับเสียงที่เกินครับ"

อันนี้ใช่เลยครับ ที่ผมเจอมาก็เป็นแบบนั้น


ตอนเบิร์น ถ้าเป็นผม คงจริงจังหน่อยครับ เพราะนี่คือการ"เล่นเครื่องเสียง(หูฟัง)" ส่วนเบิร์นเสร็จ คราวนี้ต้องปล่อยวาง"เครื่อง"มาฟัง"เพลง"ในบางครั้ง ถึงตอนนั้นค่อยมาฟังเพลงให้มีความสุข ^ ^

ปัจฉิมลิขิต ผมก็ได้ข้อมูลจากพี่ๆหลายท่านในเว็บนะคับ ไม่ใช่ลองด้วยตัวเองทั้งหมด แต่ตัวเองเผอิญใช้grado อยู่พอดีและเป็นรุ่นเดียวกับเจ้าของกระทู้ด้วยแม้จะเป็นเวอร์ชั่นเก่ากว่า เรียกว่าเป็นประสพการณ์ส่วนตัว ที่ลองทำตามรุ่นพี่ๆน้าๆที่แนะนำไว้อ้ะคับ

บุคลิกเสียงของ DAP หรือ DAC หรือ Amp หรือคอม ก็มีส่วนสำคัญอย่างมากครับ

ในการกำหนดเสียงของหูฟัง การต่อคอม PC เบิร์นหูฟัง ถ้าไฟฟ้าบ้านคุณ ต่อไม่ได้มาตราฐาน

คุณจะได้ขอแถมไม่พึงประสงค์มาด้วย คือได้เสียงมดเดิน หรือเสียงซ่าๆๆๆเหมือนฝนตกมาด้วยครับ

แม้แต่ ถ้าเบิร์นกับ DAP แล้วคุณเสียบไฟชาตไว้ คุณก็จะได้ของแถมอันไม่พึ่งประสงค์มาด้วยเช่นกัน


ทุกวันนี้อยากกลับไปเป็นเหมือนเมื่อก่อน ที่ฟังเพลงโดยไม่มีความรู้อะไรเลย ฟังเอาสนุกอย่างเดียว
เบื่อหูรู้มากของตัวผมเองเต็มที่แล้ว ฟังอะไรก็ไม่ได้ดังใจเลย เบื่อมาก

วิธีเบิร์นไปชาร์ตไปที่ดีที่สุดคือ ต่อ Power Bank ครับ หายี่ห้อดีๆหน่อย

มันจะจ่ายไฟนิ่งกว่า แล้วเอา Power Bank ต่อไฟบ้านอีกที

ผมคงไปต้องแนะนำถึงขั้น Bumper ติด Player กับ Amp มั๊งครับ

เดี๋ยวจะหาว่าบ้า 555

แก้ คห.8 บรรทัด 3

*ไม่ต้องแนะนำ . . .

"ขั้น Bumper ติด Player กับ Amp"

คืออะไรครับผม

ปุ่มยางเหมือนที่แถมกับแอมป์ไงครับ มันมีผลต่อเสียงนะ

เบิร์นถึงๆๆ น่าจะราวๆๆ 500 อัพครับ และสำคัญคืออย่าเปิดดังเกินกว่าที่เราฟังปกตินะครับ ไม่งั้นหูฟังอาจจะมีความเสียหายได้ครับ 555

ออ!ครับ ติดกับไม่ติด ทำให้เสียงต่างกันด้วยหรือครับผม พี่ครับ รบกวนอีกนิดครับ

มันช่วยลดการสั่นจากโต๊ะที่วาง เข้ามาถึง player/amp ครับ

ถ้าวางแบๆหน้าสัมผัสจะเยอะ ยางพวกนี้ช่วยลดหน้าสัมผัสครับ

electron เวลาเดินทางมันเกิดการสั่นในตัวอยู่แล้ว

การสั่นจากภายนอกก็สามารถรบกวนการสั่นของ electron ได้ไม่มากก็น้อยครับ

ถามว่าต่างมากมั๊ย น้อยครับ แต่ในเมื่อมันได้แถมมาแล้วช่วยได้ก็ติดไปเถอะครับ

อีกอย่างช่วยกันรอยขีดข่วนอีกตะหาก

หลักการเดียวกะ tiptoe ในเครื่องเสียงบ้านแหละครับ เค้าใช้กันมาหลายสิบปีแล้ว

ขอบคุณครับ ดุๆการเบิร์นหูนี่มันจะกลายเป็น "ศาสตร์"ไปแล้วมั่งครับนี่ ฮ่าาาาา

ถ้าเลิกเล่นหูฟังได้ ผมเลิกไปแล้ว เพราะติดนิสัยฟังแบบจับผิดแล้ว ไม่ใช่ฟังเพื่อความบรรเทิงแล้ว

ไหนๆก็ไหนๆละ โม้ต่อเลยละกัน 555

silicone ก็มีผลนะครับ คุณ yamano น่าจะเคยอ่านกระทู้ผมอยู่นะ

http://forum.munkonggadget.com/detail.php?id=153737

(ปล. ขออีกอย่างครับ คนที่อ่านแล้วได้ความรู้ไป ผมให้ฟรีๆไปแล้ว

กรุณาบอกต่อเถอะครับ แบ่งปันกันไปเรื่อยๆ

อยากให้คนที่เล่น แล้วยังขาดความรู้ได้รู้กันครับ วงการจะได้ค่อยๆโตครับ ^ ^)

ขอขอบคุณdragonfing

"รู้ไว้ใช่ว่า ใส่บ่าแบกหาม"ครับ

อะไรวิ่งผ่านหน้าผม ผมอ่านหมดละครับ

ขงจื่อ กล่าวไว้ว่า

" ทุกคนที่ผ่านหน้าข้าพเจ้าไป เป็นครูของข้าพเจ้าหมด ที่ดี ข้าพเจ้าเอาเป็นตัวอย่าง
ที่ไม่ดี ข้าพเจ้าจะไม่ทำตาม"

เรื่องของเสียงไม่มีผิดมีถูกหรอกครับ มีแค่ดี กับ ไม่ดีแค่นั้นแหละ ผมมองว่ามันเป็นศิลปะมากกว่า

โอ้วว บ่อน้ำมัน ช่วยดันครับความรู้ดีๆแบบนี้ปล่อยให้ตกไม่ได้ ^ ^

ขอบคุณทุกคนครับ

La Fogata เป็นเพลงในอัลบัม Give and take ของ Eric Tingstad & Nancy Rumbel ครับ ไม่ใช่ของ Tracy Chapman

เออจิงด้วย ขออภัยครับผม