ผมว่าดูจากกราฟ มันก็สูงเท่าๆกันทุกย่านความถี่นะนะ
ยกเว้นแค่ 320 จะมีรายละเอียช่วง 18000Hz ขึ้นมา (ดูแกน y ดีๆครับ)

ขอบคุณครับ

แสดงว่า 320 ดีกว่าใช่ไหมครับ ผมจะได้ลบ 256 ออก

ฟังที่เราชอบจะมีความสุขกว่ามาสนใจ พวกปีกเล็กๆน้อยๆพวกนี้ จะทำให้เราหมดสนุกในการฟังเพลงครับ

ผมมีทุกไฟล์เพลง สรุปผมฟังแล้วก็ต่างกันไม่มากนัก แล้วแต่คนชอบ และที่สำคัญ อยู่ที่player และหูฟัง

เป็นส่วนสำคัญ playerดี หูดี dac& ดี(ถ้ามี).mp3. 128kb. ก็ขันเทพได้ครับ

ดีในที่นี้ไม่ใช่ว่าต้องแพงนะครับ ถูกดีก็มีเยอะ

โหลดที่ไหน แล้วใช้ยังไงครับ โปรแกรมนี้ ผมอยากเช็ค ไฟล์เพลงผมด้วยว่า แท้หรือว่า mp3 ปล่อมมา

128 นี้มหากาก ครับ

แนะนำ ใอย่างน้อย 320ขึ้นไป

ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์ทุกๆท่านครับ

ผมโหลด 320 มาเก็บไว้หมดแล้ว ส่วน 256 เดิมก็เก็บไว้ต่อไป 555

ถ้าแบบนี้ สมมติ ผมใช้ Ak240 หูฟัง um pro50 แต่ใช้ไฟล์เพลง64kb. หรือ128kb. ก็แสดงว่า ขั้นเทพได้สินะครับ

ลงทุนไปแล้วอย่างต่ำขอ 320 ครับพอได้ไม่ฟ้องมาก ถ้าพูดว่า source ไม่จำเป็นเลยก็คงไม่ถูกนัก... ยิ่งดียิ่งฟ้องครับไม่งั้นคงฮิตเอา lcd ไปฟัง FM กันแล้วล่ะ

ขอแย้งคุณyamanoนิดนึงนะครับ

ถ้าเราเอาเครื่องเล่นดี หูฟังดี(ย้ำว่าของดีจริงๆ)มาฟังmp3 128kbps มันจะไปกันใหญ่สิครับ มันให้รายละเอียดสูงและจะฟ้องยับเลยว่าไฟล์เพลงเราไม่ดีพอ(โดยเฉพาะถ้าเคยเอาของชุดเดียวกันฟังไฟล์ดีๆมาก่อน)

คหสต.เท่าที่เคยลองมาถ้าจะใช้ไฟล์mp3จริงๆพวกเครื่องเล่นวินเทจหน่อยจะเหมาะสุดครับ(ipodเจนเก่าๆ และเครื่องเล่นวินเทจตัวดังๆทั้งหลาย)เพราะเครื่องเล่นกลุ่มนี้จะไม่เน้นจับผิดมากนัก ฟังอะไรก็เพลินครับ

ไม่รู้เหมือนกัน ผมใช้แค่ak 120 กับหูฟังหลักพัน ฟังอะไรๆเพลงอะไรก็เพาะหมดครับ.

ผมก็พึ่งมาดัดจริตรู้จักไฟล์24bit/dsd/ Lossless/ Apple Lossless/ aiff ฯลฯ ก็เมื่อไม่นานมานี้

เมื่อก่อนก็ MP3 อย่างเดียว ก็ยังฟังได้เลย ผมพึ่งดัดจริต ตอนมีพี่ท่านให้ไฟล์ดีมาฟรี

แล้วก็มารู้จักริชเอง ก็ตอนเฮียทำ วิดีโอyoutube สอนวิธีริช นี่ละครับ. และมารู้ที่ซื้อเพลงเมื่อไม่นานมานี้

หลายปีก่อน ถือipod กับhdd. หาร้านลงเพลงทั้งพันทิพ ประตูน้ำ ไม่มีใครลงให้ คือไม่เจอ เค้าบอกแต่ไม่มี เค้าคงนึกว่าผมเป็นตำรวจ เลยไม่ลงให้

ผมเชื่อว่ามีคนฟังเพลงอีกมากมายที่ไม่มีไฟล์เพลงดีไ คือไม่รู้จะหาที่ไหน

ผมจึงบอกว่าไปซีเรียสกับไฟล์มากนัก มันจะทำให้ไม่สนุกกับการฟังเพลง


Playerกับหูฟังหาไม่ยาก แต่เพลงนี่หายากจริง สำหรับคนไม่รู้ แบบผม

เพลง ของsilly fool เค้าบันทึกมาไม่ดี ให้มาริชดียังไงมันก็ไม่ดีอยู่นั้นเอง

เพลง แผ่นของนักร้องจีน ที่เขียนหน้าแผ่นว่า dsd ริชไม่เป็น ใช้แบบก๊อปธรรมดาใส่hdd ไว้

ยังไงมันก็เพาะเสียงดีมาก เพราะเค้าบันทึกเสียงมาดี

ถ้ากราฟด้วนไปเลยน่าจะเป็น CBR 320kbs
อันต่อมาคงเป็น VBR 260kbs ครับ

VBR คุณภาพสูงกว่า CBR แต่ความแตกต่างมันน้อยมาก
ทั้งคู่ใกล้เคียงกับ FLAC จนแทบจะแยกไม่ออก
แต่มีความแตกต่างกับFLACแน่นอน ซึ่งน้อยมากๆ ถ้าเปิดฟังในระดับปกติไม่น่าจะได้ยิน

ไฟล์เพลงจะไม่มีผลได้ยังไง ลองกลับไปดูกราฟข้างบนสิครับ ว่ามันต่างไม๊ ย่านแหลมมันหายไปไหน...????

บิตเรติที่มากกว่า คือความคมชัดที่สูงกว่า

โหลดเป็น FLACแล้วมาแปลงเป็น VBR 260kbs ก็ได้ครับ เพราะสิ่งที่เสียไปเป็นคลื่นเสียงในระดับnoise floor แลกกับพื้นที่เก็บมากกว่าเกือบสามเท่า
FLACทั่วไปขนาดประมาณ 20-29Mb
VBR 260kbs อยู่แค่ 7-9Mb
ส่วนใหญ่เป็น placebo effect มากกว่า ถ้าเรามองไม่เห็นว่าเรากำลังเล่นไฟล์อะไร รับรองเพราะทุกเพลง

พิมยาวแถแถดแถดแถด

ผมก็ไม่รู้จะเลือกยังไง ไฟล์ 320 ผมโหลดมาเรียบร้อย อยากจะลบ 256 ออกก็เสียดาย เพราะมันอยู่กับผมมานาน

ถ้า 320 เป็นของแท้จริงผมจะได้ลบตัว 256 ออกไปเลย เพราะเปลื้องพื้นที่จัดเก็บ แต่ดูจากคอมเม้นท์แต่ละท่านก็แสดงความเห็นที่ต่างกันออกไป ผมเลยต้องรอพิสูจน์ต่อไปครับ เพราะเพลงเหล่านี้มีคุณค่าทางจิตใจผมมาก

ขอบคุณครับ รอท่านต่อไปมาออกความเห็นนะครับ

Hires dsdแท้รึปล่าวเอ่ย แถมmp3 พี่ก็ได้มาฟรีหรือเปล่. ลองหาแผ่นมาริบเทียบกันดูครับต่างเยอึะ ไฟลฺ์ปฃอมในเนต.ัมนเยอะครับ

ถ้าอย่างงั้นลบอันที่ด้วนออกไปได้เลยครับ ยิ่งด้วนมากเท่าไหร่แปลว่ามีการแปลงไฟล์จากต่ำมาสูง เช่น 128-->320kbs ส่วนใหญ่การแปลงจากสูงไปต่ำกราฟจะออกมาด้วนน้อยถึงไม่เลย

ตรงนี้ความคิดผมนะ.ตามหูผม

ไฟล์เพลงที่มีความแตกต่างแบบเห็นได้ชัก ไล่จากดีสุดลงมาเลยนะ

DSD ,dsf, นี่ดีจริงเนียน นิ่ง สะอาดใสๆ แต่เวลาจะฟังต้อง มีอุปกรณ์ ยุ่งหลายอย่าง

24 bit/96 ,/192,/176 ไฟล์นี้เป็นไฟล์ที่ผมชอบมาก ชิ้นดนตรี คม ชัด เสียงร้อง เนียนใส พื้นหลังสะอาด แต่มีเพลง

ไทยน้อยมาก สองไฟล์นี้จะฟังต่างจากไฟล์อื่นๆชัดเจน

Wav. ไฟล์นี้ก็อยู่ในระดับที่ดี หาง่าย คุณภาพเสียงเหมือนฟังจาก cd

Apple lossless,lossless ,flac,aiff,w...,a....,พวกนี้จะอยู่ในระดับเดียวกัน แล้วแต่คนชอบ ส่วนตัวผมไม่ชอบไฟล์flac

MP3 / จะเป็น 128หรือ256หรือ320 k. ถ้ามีคนบอกว่าฟังด้วยหู แล้วฟังออกว่าต่างกันนะผมโคตพระนับถือเลยอะครับ

ผมมีเพลงอยู่ประมาณ1tb ทุกสกุลเพลง แต่เอาจริงที่ฟังประจำอยู่ไม่เกิน200เพลง คือพอเปิดก็ฟังเพลงพวกร้ก่อน

ส่วนใหญ่ก็เป็นwavและmp3และ24bit. ผมเอาเมม32gไปใส่ akมันให้เสียงแบบหนึ่ง ใส่Sony ก็ให้เสียง

อีกหนึ่ง ใส่Mac ก็ให้เสียงอีกแบบหนึ่ง นี่ไม่เกินมะรื่นนี้x1ที่จองมาใส่X1 มันก็ให้เสียงอีกแบบหนึ่ง. พอ

ต่อdac/ampมันก็ให้เสียงอีกแบบหนึ่ง. ผมถึงบอกคุณเจ้าของกระทู้ ฟังสิ่งเราชอบดีกว่า. อย่าไปสนกับอย่างอื่น

มากเพราะทำให้เราหมดสนุกกับการฟังเพลงไปเปล่าครับ การเล่นพวกเครื่องเสียงนี้มันไม่มีวันจบครับ. มีของใหม่ๆมาให้เราเสียตังไปเรื่อยๆ ทั้งไฟล์เพลงด้วย นี่ก็มี32bitออกมาแล้ว เด๋วอนาคตก็64bitมาใหม่ละครับ

ของ จขกท. เก็บไฟล์ 320 นั้นแทนที่ 256 ไปเลยครับ ส่วนที่ว่ากราฟของ 265 ทำไมมันสูงกว่า ขอให้ดูแบบนี้ครับ จุดต่ำสุดของกราฟ กับ จุดสูงสุดของกราฟ ของ 320 จะกว้างกว่า 256 ครับ ทำให้เร๊นจ์ของเสียงนั้นกว้างกว่า 256 น่ะครับ

ส่วนในเรื่องของบิทเรทในไฟล์ ผมฟังออกนะ เคยลองแปลงเองแต่จะไม่ใช่ mp3 จะเป็น AAC แบบ VBR แปลงเป็นบิต 96-128-192-320 แล้วมาฟังเทียบกันช็อตต่อช็อต

สรุปได้แบบนี้ครับ 96-128 แบน บาดมาก ถ้าหลีกเลี่ยงได้ก็หลีกเลี่ยง ยกเว้นเพลงนั้นจะหาไม่ได้จริงๆ CD ก็ไม่มี หาในเว็บก็ไม่เจอดีกว่านี้ ก็ใช้ 128

192-360 แหลมของ 320 จะดีกว่าชัดเจนครับ คม ชัด 192 จะพร่าๆ

สำรับ 320 กับ lossless นั้นก็ยังออกบ้าง เช่นพวกไมโครดีเทลทั้งหลาย ความสงัดของแบ็คกราว ความแตกต่างไม่เยอะครับ แต่ก็นับว่าต่าง เพราะฉะนั้นคนเลยหาไฟล์ที่ดีที่สุดมาไว้ในเพลเยอร์ของตัวเอง เพราะมันคือต้นทางของเสียงทั้งหมด ถ้าปลายทางดี ต้นทางห่วย ก็คือห่วยครับ

โหลดฟรีเสร็จแล้ว ถ้าชอบ อย่าลืมอุดหนุนแผ่นลิขสิทธิ์กันนะคร้าบ ^^

จะ mp3 lossless CD แผ่นเสียง hires dsd format ไหนก็ได้ อุดหนุนๆกันหน่อยนะฮะ 555

ถึงท่าน yamano
ขอบคุณที่อธิบายภาคปฏิบัติแบบละเอียดยิบเลย

ถึงท่าน Onionknight
ขอบคุณสำหรับการอธิบายเรื่องกราฟนะครับ ผมเข้าใจฉากของกราฟก็เพราะท่านน่ะครับ ส่วนที่จะลบตัวเก่าออกนั้น เดี๋ยวขอเวลาศึกษาอีกนิดนึงนะครับ เพราะ 256 กว่าจะได้มามันยากเย็นแสนเข็นน่ะครับ 555

JPJ
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะครับ แต่เพลงผมไม่มีลิขสิทธิ์ครับ เพราะเป็น Radio Show ที่ออนไลน์ตามเน็ตแล้วนำมาแจกเป็น MP3 ครับ ความยาวของแต่ละไฟล์ก็ 2 ชม.ขึ้นไปครับ

ผมขอเสริม แต่ขอไม่วิเคราะห์กราฟ เนื่องเพราะเทพๆ วิเคราะห์กันไปแล้ว

และขอไม่วิเคราะห์เพลงแต่ละฟอร์แมต เนื่องเพราะหูตะกั่วมือสมัครเล่น

แต่จะบอกว่าจากประสบการณ์ ของหูตะกั่ว หมดเงินไปเยอะพอควรบนถนนสายนี้

ระบบคุณจะดีขนาดไหน เครื่องดี สายดี ห้องดี บรรยากาศดี อารมณ์ดี

แต่ถ้าต้นทาง เพลงของคุณห่วย ทุกอย่างมันห่วยจริงๆครับ นี่คือความจริง

และความจริงอีกข้อ เพลง 24บิต หรือ DSD ที่คุณซื้อมาจากเวปนอก ใช่ว่าจะดีทั้งหมด

ผมมีที่ซื้อมาหลายอัลบั้ม ที่เสียงดี เก็บไว้ฟังตลอดก็มี ที่เก็บไว้เพราะเสียดายเงินแต่ไม่ได้ฟังก็มีเยอะ

เพราะเสียงกากจริงๆหูตะกั่วยืนยัน แต่บางชุดแม้ริปจากแผ่น เป็น flac ถ้าแผ่นดีดี เสียงดีกว่าซื้อซะอีก

สรุปอย่าหลงในรูปมันมากนัก ฟังด้วยหูตัวเอง เปรียบเทียบเอง ดีที่สุดครับ

+1 พี่ starman ฮะ ^^

@renming เค้าแจกฟรี เราก็ฟังฟรีครับ
ไม่ทราบว่ามันคืออะไร ชี้เป้าให้ผมหน่อยได้ไหมฮะ
เผื่อจะโหลดมาฟังบ้างครับ ^^

+1 คุณ starman ด้วยครับ

ต้นทางแย่ ปลายดียังไง ก็มีแต่ยิ่งฟ้องต้นทาง ถ้าฟังแล้วไม่ต่างมากมาย หรือรับได้ก็คิดว่าบุญของท่านแล้วที่หูไม่หาเรื่อง

ฟังเพลง เน้นหลักๆฟังเพื่อผ่อนคลาย เพื่อความสบายใจ แต่ถ้าฟังแล้ว เสียงไม่สบอารมณ์มันโผล่สอดแทรกมาตลอด มีสิ่งผิดเพี้ยนชวนให้หงุดหงิด ก็คงจะเรียกว่าฟังได้อย่างสบายใจ เพื่อผ่อนคลายไม่ไหวเหมือนกัน

เพราะฉะนั้น เป็นไปได้ก็เก็บไฟล์ที่ดีที่สุดที่ตัวเองสามารถหาได้เถอะครับ สำหรับเพลงที่ชอบ มันไม่เป็นการยากหรือลงทุนมากไปหรอกครับ เพื่อความสุขในรูหูเราทั้งนั้น

คหสต. ครับ

ถึงท่าน JPJ

เป็นรายการเพลงแนว Trance ของ Armin van Buuren ชื่อรายการว่า A State Of Trance ครับ
รายการนี้ผมชอบมากที่สุด และรายการนี้ทำให้ Armin ได้รับการโหวดให้เป็น DJ No.1 in the world เลยทีเดียวครับ เขาเป็นทั้ง DJ และเป็น Producer แต่งเพลงแนวนี้โดยเฉพาะเลยครับ ออกอากาศตั้งแต่เดือนมิถุนายน ปี 2001 จนถึงปัจจุบันครับ รายการจะออกทุกๆ 1 สัปดาห์ๆละ 2 ชม. (บางสัปดาห์อาจจะเกิน 2 ชม.) จนทุกวันนี้ออกถึง 682 แล้ว และผมตามเก็บรายการนี้ตั้งแต่เเรกเริ่มออกอากาศเลยครับ

และก็ยังมีรายการของคนอื่นด้วยไม่ว่าจะเป็นของ Paul van Dyk , Above @ Beyond ฯลฯ จนทุกวันนี้มี DJ & Producer คนอื่นๆหันมาเปิดรายการ Trance radio show กันเยอะแยะ ฟังกันไม่หวาดไม่ไหวเลยทีเดียวครับ

สนใจอยากเข้าไปดูไปโหลดกันได้ที่ http://www.trancepodium.com/forums/radio-shows และเว็บอื่นๆอีกมากมายเลยครับ ทั้งโหลดตรงและโหลดแบบเสียเงินพรีเมี่ยมด้วยครับ

หูเค้าไม่ได้หาเรื่องน้าาาาา

แต่หูเค้ามีเลือดไหลออกมาแค่นั้น หมอห้ามฟังเสียงดังๆ 6เดือน แต่เค้ายังฟังอยู่ทุกวันน้าาาา

ยิ่งไปได้e11k+ifi nano + Mac +24 bit และหูKZ grเบสลงลึกมาก เค้าไม่หลับไม่นอนเลยน้าาาา

ตั้งแต่ฟังเพลงมายังไม่เคย เจอ DSD แท้ๆที่ห่วยเลยหนา. 24 bitแม้เอาใสiphone. มันดาวโหลดbitลงมา

เค้าก็ยังว่ามันม.ค. อยู่ไม่เคยเจอเลย 24bitห่วยเนี่ย ใครมีเค้าหน้าลองฟังหน่อยดิ.

อยากรู้ความห่วยเป็นแบบไหน อิ อิ

ถึงท่าน SounDFeVeR

ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์นะครับ มันก็คงจะเหมือนการขับรถ (หรือเปล่า) เช่น ระหว่างรถสมัยสรพงษ์เป็นหนุ่ม กับ รถเก๋งคันหรูรุ่นล่าสุด อย่างไหนขับดีกว่ากัน แต่ทั้งสองอย่างนี้ก็เป็นการขับรถเหมือนกัน เปรียบเทียบเหมือนกับการฟังเพลงหรือเปล่านะครับ เพลง kbps ต่ำ เปรียบเหมือนรถเก่าที่ขับแล้วก็ไม่ดีไปเสียทุกอย่างเช่น แอร์ไม่มี ขับไปแล้วดับกลางทาง ไม่มีเครื่องเสียง ฯลฯ ส่วน kbps สูงๆเปรียบเทียบได้กับรถหรูรุ่นให่ล่าสุด ขับอะไรก็ดีไปเสียทุกอย่าง 555

เสริมอีกนิดครับ แหล่ง 320 ที่ผมโหลดมาใหม่เป็นเว็บนี้ครับ http://asot.djradiosets.com/ ส่วนเว็บอื่นๆที่กล่าวมานั้นส่วนใหญ่จะเป็น 256 เสียหมดน่ะครับ สนใจลองโหลดลองฟังกันได้นะครับ เผื่อท่านใดอยากทดสอบเสียงแทนผมก็เป็นพระคุณยิ่งเลย 555

http://forum.munkonggadget.com/detail.php?id=19480

จะผิดมั้ยคับแบบนี้

+ เจ้าของกรถทู้

เปรียบได้ดี เปรียบได้ถูกต้อง เราอ่านแล้วเราชอบมาก

ถึงท่าน SkuLLo

เหวอเลยครับงานนี้ จะโดนแบนมั้ยเนี่ย เห็นท่าน JPJ ขอแหล่ง ผมเลยวางลิ้งก์ให้น่ะครับ ขออภัยด้วยครับ แก้โพสก็ไม่ได้ด้วยสิ


ถึงท่าน yamano

ขอบคุณครับท่าน ท่านก็อธิบายได้ดีมากเลยครับ อ่านแล้วตรงกับที่ผมเคยลองมาเหมือนกัน เสียงมันต่างกันแบบรู้สึกได้เหมือนกันเลยครับ