Toggle Dropdown
ค้นหา
ค้นหาชื่อสินค้า
ค้าหารีวิวและบทความ
ค้นหาโปรโมชั่น
ค้นหาฟีดข่าว
ค้นหาไฮไลท์
TH
EN
หน้าแรก
สินค้า
เว็บบอร์ด
เกี่ยวกับเรา
สาขา
วิธีชำระเงิน
ติดต่อเรา
Guest
อีเมล์ / ชื่อผู้ใช้ :
รหัสผ่าน :
ลืมรหัสผ่าน
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
หรือ
ค้นหาโดย Google
ค้นหาทุกคำ
ค้นหาชื่อกระทู้
ค้นหาชื่อผู้ตั้งกระทู้
เว็บบอร์ดจับฉ่าย
หูฟังมือสอง
ซื้อขายจิปาถะ
รีวิวและบทความ
กระทู้เฮีย
คลับ
หมวดหมู่ >
ช่องทางการติดต่ออื่น
All
5
10
15
รีวิวสาย M2M หลังผ่านการBurn 50 ชม.
Shared
ติดตามกระทู้นี้
แจ้งลบ
duo_o
28/08/2014 10:59:02
0
ออกตัวก่อนนะครับ ผมไม่ใช้มืออาชีพหรือผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องเสียง แต่ผมทำงานทดสอบเครื่องใช้ไฟฟ้า
สืบเนื่องจากความสงสัยในเรื่องการ Burnสายมานานมาก อ่านจากข้อมูลเก่าๆเค้าบอกให้Burn สัก50ชมเพื่อให้สาย ยืดตัว ค่าความต้านทานเปลี่ยนแปลงจนคงที่ ซึ่งผมในฐานะผู้บริโภคข้อมูล จึงเกิดความสงสัยว่ามันดีขึ้นขนาดนั้นจริงหรือป่าว? แล้วมันจะมีการเปลี่ยนแปลงจริงหรือ?
วันนี้ผมได้สั่งซื้อสาย m2m ของพ่อค้าสายหนึ่งในบอร์ด ซึ่งจะทำการทดลองสายไฟโดยวัดค่าความต้านด้วยเครื่องวัดที่มีความละเอียดสูงสุด0.01มิลลิโอห์ม
ได้สายมาวัดค่าก่อน Burn
Channel L วัดได้ 6.95 มิลลิโอห์ม Channel R วัดได้ 6.84 มิลลิโอห์ม
หลังผ่านการ Burn 50 ชม. ด้วยชุด Dac E12 ปรับ 1/3 เครื่องเล่น Teclast X30SE ผ่านหูฟัง AKG420
Channel L วัดได้ 7.02 มิลลิโอห์ม Channel R วัดได้ 6.93 มิลลิโอห์ม
ค่าที่ได้หลังผ่านการทดสอบ 50 ชม. แตกต่างแค่ 0.07 – 0.09 มิลลิโอห์ม ซึ่งน้อยมากจนแทบคิดว่าเป็นค่า Error ของเครื่องวัดยังได้เลย ดังนั้นผมขอยืนยันว่า Burn 50 ชม. ค่าความต้านของเครื่องยังไม่เปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน เนื่องจากค่าความต้านแทนเปลี่ยนแปลงแค่ 1 %เท่านั้น
เสียงเท่าฟังไป 4 หูฟัง ราคาตั้งแต่ 1500 - 4000 บาท ก่อนและหลังพบว่าไม่ต่างกันเลยจริงๆๆ สงสัยหูเราไม่ทอง
จบแล้วนะครับ งานทดลองบ้านๆของผม ^ ^
ความคิดเห็นที่ : 1
photozero
28/08/2014 11:35:51
0
นานๆจะเจอการรีวิว ผสมทดลองที่มีสาระ ครับ +1 ครับ 555+
นานๆจะเจอการรีวิว ผสมทดลองที่มีสาระ ครับ +1 ครับ 555+
ความคิดเห็นที่ : 2
tangkoo
28/08/2014 12:03:51
^^ +1 ไม่ทราบใช้ไฟล์อะไรเบิร์นครับ
^^ +1 ไม่ทราบใช้ไฟล์อะไรเบิร์นครับ
ความคิดเห็นที่ : 3
Ligor
28/08/2014 12:33:28
0
รบกวนช่วยเบิร์นต่อไปที่ 300 ชม. แล้วกลับมาวัดค่าให้ดูอีกครั้งได้ไหมครับ อยากรู้ว่าจะมีความเปลี่ยนแปลงไหม เพราะที่ 50 ชม. วัดแล้วเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยนนั้น อาจจะเกิดจากอุณหภูมิ หรือึความชื้นที่แตกต่างกันก็เป็นได้
รบกวนช่วยเบิร์นต่อไปที่ 300 ชม. แล้วกลับมาวัดค่าให้ดูอีกครั้งได้ไหมครับ อยากรู้ว่าจะมีความเปลี่ยนแปลงไหม เพราะที่ 50 ชม. วัดแล้วเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยนนั้น อาจจะเกิดจากอุณหภูมิ หรือึความชื้นที่แตกต่างกันก็เป็นได้
ความคิดเห็นที่ : 4
duo_o
28/08/2014 13:15:27
0
สักระยะเดี่ยวมาเล่าใหม่ 300 ชม. นานนะนี่ เพราะอันนี้เปิดยาว สลับพัก2ชมทุก 10 ชม. แต่ก็ได้ความรู้ว่า e12ใช้ได้เกิน 10 ชม
ไฟล์ผมเอาเพลงทั่วๆไปที่ผมชอบฟังงะครับ ความละเอียด 320 kbps
สักระยะเดี่ยวมาเล่าใหม่ 300 ชม. นานนะนี่ เพราะอันนี้เปิดยาว สลับพัก2ชมทุก 10 ชม. แต่ก็ได้ความรู้ว่า e12ใช้ได้เกิน 10 ชม
ไฟล์ผมเอาเพลงทั่วๆไปที่ผมชอบฟังงะครับ ความละเอียด 320 kbps
ความคิดเห็นที่ : 5
นายมั่นคง
28/08/2014 13:33:20
ผมว่าอุปกรณ์ที่ใช้ถ้าคุณภาพเ้ย ๆ จะเอามาอ้างอิงไม่ได้นะครับ อย่างระดับผมอุปกรณ์แม่งราคาเป็แสน ๆ อันนี้ถึงจะมีมาตรฐาน
ผมว่าอุปกรณ์ที่ใช้ถ้าคุณภาพเ้ย ๆ จะเอามาอ้างอิงไม่ได้นะครับ อย่างระดับผมอุปกรณ์แม่งราคาเป็แสน ๆ อันนี้ถึงจะมีมาตรฐาน
ความคิดเห็นที่ : 6
yamano
28/08/2014 13:37:28
271
ถ้ามีไฟล์ที่ดีกว่าmp3 จะดีมากครับ เวลาวัด อุปกรณ์ทุกอย่างอยู่ในห้องแอร์หรือเปล่าครับ. เบิร์น5ชม. พัก1ชม.ก็ได้ครับ
ราคาสายmini2miniซื้อมาราคาเท่าไหร่ครับ สายอาจต้องเบิร์นนานกว่าหูฟังครับ รบกวนถ้าเลยร้อย ชม.ไปแล้วช่วย รบกวนวัดให้ดูอีกนะครับพี่ อยากรู้จริงๆ วัดที่มีอากาศธรรมชาตินะครับ
ถ้ามีไฟล์ที่ดีกว่าmp3 จะดีมากครับ เวลาวัด อุปกรณ์ทุกอย่างอยู่ในห้องแอร์หรือเปล่าครับ. เบิร์น5ชม. พัก1ชม.ก็ได้ครับ
ราคาสายmini2miniซื้อมาราคาเท่าไหร่ครับ สายอาจต้องเบิร์นนานกว่าหูฟังครับ รบกวนถ้าเลยร้อย ชม.ไปแล้วช่วย รบกวนวัดให้ดูอีกนะครับพี่ อยากรู้จริงๆ วัดที่มีอากาศธรรมชาตินะครับ
ความคิดเห็นที่ : 7
Noppaket
28/08/2014 13:43:34
0
เหยด เฮียมั่นเสิ่นเจิ้น 5555
เหยด เฮียมั่นเสิ่นเจิ้น 5555
ความคิดเห็นที่ : 8
SkuLLo
28/08/2014 14:06:09
1
น่าสนใจครับถ้าเปลี่ยนตัวแปรหลายๆอย่างเช่น เวลาburn ที่นานขึ้น ไฟล์เพลงที่คุณภาพสูงขึ้น
และ สายที่คุณภาพดีขึ้น ค่าที่วัดได้จะมากกว่านี้มั้ยผมก็อยากรู้ครับ
ถ้าเอามาเปรียบเทียบกันได้จะเห็นภาพขึ้นมากเลยครับ
น่าสนใจครับถ้าเปลี่ยนตัวแปรหลายๆอย่างเช่น เวลาburn ที่นานขึ้น ไฟล์เพลงที่คุณภาพสูงขึ้น
และ สายที่คุณภาพดีขึ้น ค่าที่วัดได้จะมากกว่านี้มั้ยผมก็อยากรู้ครับ
ถ้าเอามาเปรียบเทียบกันได้จะเห็นภาพขึ้นมากเลยครับ
ความคิดเห็นที่ : 9
เอก บางแค
28/08/2014 15:40:05
0
ทดสอบไม่ตรงจุดกระมั้งครับ
การที่เบิร์นแล้วเสียงเปลี่ยน อาจจะไม่เกี่ยวกับความต้านทานโดยตรงเพียงอย่างเดียว
ทดสอบไม่ตรงจุดกระมั้งครับ
การที่เบิร์นแล้วเสียงเปลี่ยน อาจจะไม่เกี่ยวกับความต้านทานโดยตรงเพียงอย่างเดียว
ความคิดเห็นที่ : 10
duo_o
28/08/2014 15:58:32
0
คือ ผมทดลองเท่าที่อุปกรณ์อำนวยครับ ส่วนเครื่องวัดก็ราคา70000บาท วัดห้องแอร์ควบคุมอุณหภูมิ 25 องศา ทิ้งตย.ไว้ 30 นาที ส่วนที่วางห้องแอร์ครับ 20-23องศา
สายไฟนะครับ มันวัดได้แค่สภาพการนำไฟฟ้าเท่านั้นแระ ก็คือเครื่องมือที่ผมมีอยู่ จะใช้เครื่องละ100000 บาท ผมก็มีนะแต่ความละเอียดเท่ากัน
ไอ้เรื่องสัญญาณที่วิ่งผ่านสายนี่กำลังเอา สโคปวัดดูอยู่มันต่างไงหว่า เสียงคุณภาพสูงกับเสียงธรรมดามันต่างกันแค่ไหน พอดีเรื่องออดิโอ ผมไม่ค่อยชำนาญ ชำนาญพวกSaftyมากกว่า
สายนี่ของคุณพอยด์ ทองแดงเคลือบเงิน ซึ่งคุณภาพดีเลยแม้จะไม่ใช่รุ่นเรือธง ดีกว่าที่ซื้อ 990บาท ตอนที่ซื้อพร้อม Fiio
คือ ผมทดลองเท่าที่อุปกรณ์อำนวยครับ ส่วนเครื่องวัดก็ราคา70000บาท วัดห้องแอร์ควบคุมอุณหภูมิ 25 องศา ทิ้งตย.ไว้ 30 นาที ส่วนที่วางห้องแอร์ครับ 20-23องศา
สายไฟนะครับ มันวัดได้แค่สภาพการนำไฟฟ้าเท่านั้นแระ ก็คือเครื่องมือที่ผมมีอยู่ จะใช้เครื่องละ100000 บาท ผมก็มีนะแต่ความละเอียดเท่ากัน
ไอ้เรื่องสัญญาณที่วิ่งผ่านสายนี่กำลังเอา สโคปวัดดูอยู่มันต่างไงหว่า เสียงคุณภาพสูงกับเสียงธรรมดามันต่างกันแค่ไหน พอดีเรื่องออดิโอ ผมไม่ค่อยชำนาญ ชำนาญพวกSaftyมากกว่า
สายนี่ของคุณพอยด์ ทองแดงเคลือบเงิน ซึ่งคุณภาพดีเลยแม้จะไม่ใช่รุ่นเรือธง ดีกว่าที่ซื้อ 990บาท ตอนที่ซื้อพร้อม Fiio
ความคิดเห็นที่ : 11
duo_o
28/08/2014 16:07:06
0
ผมว่าอุปกรณ์ที่ใช้ถ้าคุณภาพเ้ย ๆ จะเอามาอ้างอิงไม่ได้นะครับ อย่างระดับผมอุปกรณ์แม่งราคาเป็แสน ๆ อันนี้ถึงจะมีมาตรฐาน ----->นี่เฮียเขียนเองป่ะ
dac ก็มั่นคง
หูก็มั่นคง
พึ่งอ่านเห็น ทีหลังจะไม่ซื้อมันแระ เสียความรู้สึก
ผมว่าอุปกรณ์ที่ใช้ถ้าคุณภาพเ้ย ๆ จะเอามาอ้างอิงไม่ได้นะครับ อย่างระดับผมอุปกรณ์แม่งราคาเป็แสน ๆ อันนี้ถึงจะมีมาตรฐาน ----->นี่เฮียเขียนเองป่ะ
dac ก็มั่นคง
หูก็มั่นคง
พึ่งอ่านเห็น ทีหลังจะไม่ซื้อมันแระ เสียความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ : 12
UIZ
28/08/2014 16:14:02
นั่นมันเฮียตัวปลอมครับ อย่าได้ตกใจ
นั่นมันเฮียตัวปลอมครับ อย่าได้ตกใจ
ความคิดเห็นที่ : 13
Ligor
28/08/2014 16:15:03
0
ใจเย็นครับ อย่างที่คุณ Noppaket บอกครับ เฮียมั่นจากเสิ่นเจิ้นน ของก็อปจากจีนไม่ใช้ของแท้จากร้านมั่นคง
ใจเย็นครับ อย่างที่คุณ Noppaket บอกครับ เฮียมั่นจากเสิ่นเจิ้นน ของก็อปจากจีนไม่ใช้ของแท้จากร้านมั่นคง
ความคิดเห็นที่ : 14
tangkoo
28/08/2014 16:24:05
คห.5 ไม่ใช่เฮียมั่นตัวจริงแน่นอนครับ เมื่อวานคงโดนฝนมากไป
คห.5 ไม่ใช่เฮียมั่นตัวจริงแน่นอนครับ เมื่อวานคงโดนฝนมากไป
ความคิดเห็นที่ : 15
cycy
28/08/2014 17:30:14
15
เฮียตัวจริงต้องมีรูปและประโยคลงท้าย 555 ครับ
เฮียตัวจริงต้องมีรูปและประโยคลงท้าย 555 ครับ
ความคิดเห็นที่ : 16
a4ddp
28/08/2014 17:44:41
0
เอา ออสซิโลสโคป จับเลยย
เอา ออสซิโลสโคป จับเลยย
ความคิดเห็นที่ : 17
เอก บางแค
28/08/2014 17:58:48
0
ถึงบอกว่าทดสอบไม่ตรงจุดไงครับ
การเอาเครื่องมือมาวัดการนำไฟฟ้าเพื่อมาอ้างอิงเรื่องการเบิร์นแล้วเสียงเปลี่ยนเนี่ย
คือกำลังจะบอกว่าเบิร์นไปไม่เห็นจะมีไรเปลี่ยนเลยโดยใช้เครื่องมือวัดใช่มั้ยครับ
แต่สายjps ราคาเส้นละ300k++ ทำมาจากอลูมิเนียมนะครับ
ซึ่งอลูมิเนียมนำไฟฟ้าได้ห่วยกว่าสายทองแดงชุบเงินอยู่ละ
ถึงบอกว่าทดสอบไม่ตรงจุดไงครับ
การเอาเครื่องมือมาวัดการนำไฟฟ้าเพื่อมาอ้างอิงเรื่องการเบิร์นแล้วเสียงเปลี่ยนเนี่ย
คือกำลังจะบอกว่าเบิร์นไปไม่เห็นจะมีไรเปลี่ยนเลยโดยใช้เครื่องมือวัดใช่มั้ยครับ
แต่สายjps ราคาเส้นละ300k++ ทำมาจากอลูมิเนียมนะครับ
ซึ่งอลูมิเนียมนำไฟฟ้าได้ห่วยกว่าสายทองแดงชุบเงินอยู่ละ
ความคิดเห็นที่ : 18
ฮาร์ด
28/08/2014 18:44:00
ถ้าวัดวิธีนี้
สายjpsสามแสนอาจสู้สายfiioไม่ได้สิ
เพราะอลูนำไฟฟ้าห่วย
ถ้าวัดวิธีนี้
สายjpsสามแสนอาจสู้สายfiioไม่ได้สิ
เพราะอลูนำไฟฟ้าห่วย
ความคิดเห็นที่ : 19
teenoi08
28/08/2014 19:55:31
3
การ burn in เป็นการเรียงโมเลกุลในตัวนำให้ไปในทิศทางเดียวกันครับ เมื่ออะไรไปในทิศทางเดียวกัน มันย่อมไหลดีกว่า ที่มีอะไรมากั้น
แต่ที่สำคัญกว่าสิ่งอื่นคือคุณภาพของตัวนำครับ ถ้าตัวนำคุณภาพดีอยู่แล้ว ย่อมส่อแววดีมาแต่แรกครับ
วงการเครื่องเสียง มีอะไรอีกหลายอย่างที่ เครื่องมือ มันตอบไม่ได้ครับ
เชื่อไหมแค่หัวปลั๊กไฟ เปล่าๆไม่ต้องเข้าสาย เอามาเสียบกับเต้ารับในระบบ ก็เสียงเปลี่ยนแล้ว
การ burn in เป็นการเรียงโมเลกุลในตัวนำให้ไปในทิศทางเดียวกันครับ เมื่ออะไรไปในทิศทางเดียวกัน มันย่อมไหลดีกว่า ที่มีอะไรมากั้น
แต่ที่สำคัญกว่าสิ่งอื่นคือคุณภาพของตัวนำครับ ถ้าตัวนำคุณภาพดีอยู่แล้ว ย่อมส่อแววดีมาแต่แรกครับ
วงการเครื่องเสียง มีอะไรอีกหลายอย่างที่ เครื่องมือ มันตอบไม่ได้ครับ
เชื่อไหมแค่หัวปลั๊กไฟ เปล่าๆไม่ต้องเข้าสาย เอามาเสียบกับเต้ารับในระบบ ก็เสียงเปลี่ยนแล้ว
ความคิดเห็นที่ : 20
เหน่งบา
29/08/2014 06:35:38
1,866
ที่จริงสนใจการวัดโดยเครื่องมือของเจ้าของกระทู้นะครับ อยากรู้เหมือนกันว่าถ้าหูตัวที่เบิร์นได้เสียงที่ดี และเบิร์นนานพอ(50ชั่วโมงยังไม่พ้นแน่)จะส่งผลให้ค่าทางไฟฟ้าต่างกันได้แค่ไหน
แต่ในแง่คนเล่นเครื่องเสียง คิดว่าบางอย่างคงเป็นเรื่องที่วิธีการวัด ยังไม่ได้ตั้งหัวข้อให้ถูกประเด็นมากกว่าครับ ถึงวัดค่าบางอย่างแล้วไม่มีผลต่าง
เคยได้ยินหลวงปู่(อายุไม่มาก)ท่านหนึ่ง ซึ่งท่านมีความรู้เรื่องสมุนไพรและแพทย์แผนโบราณ บอกว่า เรื่องน้ำผึ้งเดือนห้า ที่คนสมัยก่อนบอกว่าดี มีนักวิจัยเอาไปวัดทดสอบในแล็บ สรุปออกมาว่ามันก็แค่เดือนห้า(เมษา อากาศร้อน)ไม่ค่อยมีฝน ไม่ค่อยมีความชื้น น้ำผึ้งเดือนห้าก็เลยมีความชื้นปนอยู่น้อย น้ำตาลจะเยอะกว่าน้ำผึ้งในช่วงเวลาปกติ ก็แค่นั้น ไม่ได้ต่างอะไรกับน้ำผี้งทั่วไป
ท่านบอกว่าคนที่คิดทดสอบยังไม่รอบคอบพอ น้ำผึ้งเดือนห้าไม่ได้แค่หวานกว่า แต่ตามธรรมชาติสมัยก่อน น้ำผึ้งแท้ที่ไม่ได้มาจากฟาร์ม ผึ้งต้องแสวงหาน้ำหวานจากเกสรดอกไม้ที่บานอยู่ในเวลานั้น และ พืชอะไรบ้างที่สามารถออกดอกโดยทนต่อสภาพกาอาศที่ร้อนที่สุดในรอบปี แห้งแล้งที่สุดในรอบปี แสงแดดแผดเผามากที่ทั้งความรุนแรงและช่วงกลางวันที่ยาวกว่าช่วงอื่น(พืชโดยทั่วไป จะออกดอกเพื่อสืบพันธุ์ในหน้าหนาว เพราะสะสมความพร้อมมาตลอดหน้าฝนที่น้ำเยอะ และ หน้าหนาวพืชจะสบายกว่า ประกอบกับมีลมช่วยในการพัดพาเมล็ดให้ปลิวไปตามลมได้ตามกระบวนการทางธรรมชาติ)ในเป็นประเด็นว่า ทำไมเครื่องยาโบราณถึงระบุให้ใช้น้ำผึ้งเดือนห้าเป็นกระสายยา..น้ำผึ้งเดือนห้าจึงไม่ได้มีคุณค่าความหมายแค่น้ำตาลมากกว่า หวานกว่าเท่านั้น
จากที่หลวงปู่ว่า การทดสอบบางอย่างถ้าใช้วิธีการทดสอบที่ไม่ถูกประเด็น มันอาจเปรียบได้เหมือนกับการใช้กระชอนที่ตาห่างเกินไปมาควานในอ่างที่มีอะไรเล็กกว่าตาของกระชอน แล้วก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา จึงสรุปว่า ในอ่าง ไม่มีอะไรอยู่ = ="
ที่พูดมามันเกี่ยวกับกระทู้ไหมเนี่ย ขออภัยที่เพ้อเจ้อครับ ^ ^
ที่จริงสนใจการวัดโดยเครื่องมือของเจ้าของกระทู้นะครับ อยากรู้เหมือนกันว่าถ้าหูตัวที่เบิร์นได้เสียงที่ดี และเบิร์นนานพอ(50ชั่วโมงยังไม่พ้นแน่)จะส่งผลให้ค่าทางไฟฟ้าต่างกันได้แค่ไหน
แต่ในแง่คนเล่นเครื่องเสียง คิดว่าบางอย่างคงเป็นเรื่องที่วิธีการวัด ยังไม่ได้ตั้งหัวข้อให้ถูกประเด็นมากกว่าครับ ถึงวัดค่าบางอย่างแล้วไม่มีผลต่าง
เคยได้ยินหลวงปู่(อายุไม่มาก)ท่านหนึ่ง ซึ่งท่านมีความรู้เรื่องสมุนไพรและแพทย์แผนโบราณ บอกว่า เรื่องน้ำผึ้งเดือนห้า ที่คนสมัยก่อนบอกว่าดี มีนักวิจัยเอาไปวัดทดสอบในแล็บ สรุปออกมาว่ามันก็แค่เดือนห้า(เมษา อากาศร้อน)ไม่ค่อยมีฝน ไม่ค่อยมีความชื้น น้ำผึ้งเดือนห้าก็เลยมีความชื้นปนอยู่น้อย น้ำตาลจะเยอะกว่าน้ำผึ้งในช่วงเวลาปกติ ก็แค่นั้น ไม่ได้ต่างอะไรกับน้ำผี้งทั่วไป
ท่านบอกว่าคนที่คิดทดสอบยังไม่รอบคอบพอ น้ำผึ้งเดือนห้าไม่ได้แค่หวานกว่า แต่ตามธรรมชาติสมัยก่อน น้ำผึ้งแท้ที่ไม่ได้มาจากฟาร์ม ผึ้งต้องแสวงหาน้ำหวานจากเกสรดอกไม้ที่บานอยู่ในเวลานั้น และ พืชอะไรบ้างที่สามารถออกดอกโดยทนต่อสภาพกาอาศที่ร้อนที่สุดในรอบปี แห้งแล้งที่สุดในรอบปี แสงแดดแผดเผามากที่ทั้งความรุนแรงและช่วงกลางวันที่ยาวกว่าช่วงอื่น(พืชโดยทั่วไป จะออกดอกเพื่อสืบพันธุ์ในหน้าหนาว เพราะสะสมความพร้อมมาตลอดหน้าฝนที่น้ำเยอะ และ หน้าหนาวพืชจะสบายกว่า ประกอบกับมีลมช่วยในการพัดพาเมล็ดให้ปลิวไปตามลมได้ตามกระบวนการทางธรรมชาติ)ในเป็นประเด็นว่า ทำไมเครื่องยาโบราณถึงระบุให้ใช้น้ำผึ้งเดือนห้าเป็นกระสายยา..น้ำผึ้งเดือนห้าจึงไม่ได้มีคุณค่าความหมายแค่น้ำตาลมากกว่า หวานกว่าเท่านั้น
จากที่หลวงปู่ว่า การทดสอบบางอย่างถ้าใช้วิธีการทดสอบที่ไม่ถูกประเด็น มันอาจเปรียบได้เหมือนกับการใช้กระชอนที่ตาห่างเกินไปมาควานในอ่างที่มีอะไรเล็กกว่าตาของกระชอน แล้วก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา จึงสรุปว่า ในอ่าง ไม่มีอะไรอยู่ = ="
ที่พูดมามันเกี่ยวกับกระทู้ไหมเนี่ย ขออภัยที่เพ้อเจ้อครับ ^ ^
ความคิดเห็นที่ : 21
known
29/08/2014 07:01:56
กาฟังเพลง ระบบมันเปน impedance ไม่ใช่ ohm ปะคับ วัดอย่างงี้ได้อะไร?
แล้วเวลาเบิน เบินทั้งsystemไม่ใช่หรอคับ แล้วได้คำนวนinternal resistanceของเครื่องวัดด้วยรึป่าวมันสูงตั้งกี่ล้านโอม อย่างน้อยๆสร้างระบบง่ายๆเพื่อวัดด้วยสโคป แล้วดูที่ตัวเวฟเลยน่าจะดีกว่า (นึกถึงpotentiometerคับ หมุนไปหมุนมา เปลี่ยนรูปแบบคลื่นได้)
กาฟังเพลง ระบบมันเปน impedance ไม่ใช่ ohm ปะคับ วัดอย่างงี้ได้อะไร?
แล้วเวลาเบิน เบินทั้งsystemไม่ใช่หรอคับ แล้วได้คำนวนinternal resistanceของเครื่องวัดด้วยรึป่าวมันสูงตั้งกี่ล้านโอม อย่างน้อยๆสร้างระบบง่ายๆเพื่อวัดด้วยสโคป แล้วดูที่ตัวเวฟเลยน่าจะดีกว่า (นึกถึงpotentiometerคับ หมุนไปหมุนมา เปลี่ยนรูปแบบคลื่นได้)
ความคิดเห็นที่ : 22
้hifijirayut
11/11/2014 15:31:05
ถ้าฟังแล้วเสียงเปลี่ยน หรือ ไม่เปลี่ยน หรือจะมโนเอาเอง ถ้าเล่นแล้วอัพแล้ว แล้วคุณมีความสุขกับมัน ทุกอย่างจบครับ อิอิ
ถ้าฟังแล้วเสียงเปลี่ยน หรือ ไม่เปลี่ยน หรือจะมโนเอาเอง ถ้าเล่นแล้วอัพแล้ว แล้วคุณมีความสุขกับมัน ทุกอย่างจบครับ อิอิ
ตอบกระทู้ :
"รีวิวสาย M2M หลังผ่านการBurn 50 ชม."
รายละเอียด :
ชื่อ :
รหัสความปลอดภัย :
ตกลง
ตั้งค่าใหม่
แจกหูพิเศษ :
แจ้งลบกระทู้ / ข้อความ
สาเหตุ :
โพสที่แจ้งลบ
แจ้งโดย
เหตุที่แจ้ง
สถานะ