สวัสดีครับ สืบเนื่องมาจากความแค้นส่วนตัวที่พยายามจะหารีวิวอ่านเกี่ยวกับตัว Bose SoundTouch แบบไทยๆปรากฏว่าหาไม่ได้เลย 5555 ตอนนี้ซื้อแล้วเลยทำรีวิวมันเองซะเลย (เพื่อ?)
เกริ่นก่อนนะครับ
สืบเนื่องมาจากผมใช้ตัว Bose Soundlink 2 อยู่ ใช้ฟังในห้องนั่งเล่นกับห้องนอน ก็ถือไปถือมาสะดวกดี แต่เวลาไปฟังที่ห้องนั่งเล่นใหญ่ รู้สึกว่าเสียงมันโหวงเหวงครับ คือมันก็ดังนะครับแต่มันโหวงเหวงๆไม่รู้จะอธิบายยังไง นี่รึเปล่าที่เค้าเรียกว่า room filling sound ? ผมก็เลยอยากได้ลำโพงที่ตัวใหญ่กว่าหน่อย ก็มาลงตัวที่ Bose Soundtouch นี่แหละครับเพราะชอบ Bose อยู่เป็นทุนเดิม ก่อนจะซื้อก็หาข้อมูลจากในเว้บ Bose อ่านจากคนมารีวิวแล้วก็ในเว้บ amazon อ่านไปอ่านมาอยู่ 3-4 เดือนก็ตัดสินใจซื้อเลย
Bose SoundTouch คืออะไร
ง่ายๆเลยมันก็คือลำโพงที่เชื่อต่อกับระบบ wifi ที่บ้าน เพื่อใช้ฟัง วิทยุ online , หรือ music library เช่น itunes หรือจะฟังผ่าน airplay จาก iphone , ipad , ipod ก็ได้ครับ
SoundTouch (ST) จะมีทั้งหมด 3 ขนาดด้วยกัน (ในราคาที่ต่างกัน) แต่ฟังชั่นทุกอย่างเหมือนกันเกือบหมด
1. ST portable คือตัวเล็กสุด มีแบตในตัว หิ้วไปหิ้วมาในบ้านได้ชิวๆ
2. ST20 คือตัวขนาดกลาง (ราคาเท่ากับตัว portable) ไม่มีแบตในตัว เสียงดีกว่าตัว portable โบสบอกว่าเพียงพอแล้วสำหรับห้องขนาดกลางๆทั่วไป
3. ST30 คือตัวใหญ่สุด (ราคาแพงกว่าตัว ST20 เกือบเท่าตัว!!) หนัก 8 โลกว่า เสียงดีและดังสุด เหมาะสำหรับห้องขนาดใหญ่ มีระบบ DSP (Digital Signal Processing) และ Wave Guide Technology ของ Bose
หลังจากลองฟังตัว 20 เทียบกับตัว 30 แล้ว ผมก็ตัดสินใจซื้อตัว 30 มาครับ คิดว่าไหนๆก็จะซื้อแล้ว ซื้อเผื่อไปเลยดีกว่าขาด
เสียงของตัว 30 ก็ดีและดังกว่าตัว 20 มาก ก็เลยเอามันตัวนี้แหละ
การใช้งาน
ลำโพงตระกูล SoundTouch จะเหมาะสำหรับคนที่มี wifi และคนที่ใช้ iphone ipad เพราะเล่นผ่าน airplay ได้ หลักๆเลย คือ Bose จะมีโปรแกรมควบคุมตัว SoundTouch ให้โหลดฟรี ทั้งบนคอมและบน iphone/ipad เพื่อใช้ในการควบคุมการทำงานของลำโพง ควบคุมได้ทุกอย่างทั้งการเปิด ปิด เล่น หยุด เบาเสียง เพิ่มเสียง ตั้งสถานวิทยุ etc..
โปรแกรมนี้จะให้เราสร้างบัญชีผู้ใช้กับ Bose (ตอนติดตั้งลำโพง) แล้วหลังจากนั้นในโปรแกรม เราสามารถหาและเลือกฟังสถานีวิทยุต่างๆทั่วโลกได้ทันที (หาจากในโปรแกรม) แล้วเราสามารถ add favorite ได้ทั้งหมด 6 สถานี
หน้าตาโปรแกรมใน ipad , ผมลองหาสถานีต่างๆของไทยก็พอมีอยู่บ้างครับแต่ไม่มาก (Bose บอกว่าจะเริ่มทยอยๆเพิ่ม service ต่างๆให้มากขึ้นหลังกลางปีนี้) หลักการก็คือหลังจากเรา add favorite ไว้แล้ว เราแค่กดเลขบนโปรแกรม ก็สามารถรับฟังสถานีวิทยุนั้นได้ทันที หรือเราจะกดจากรีโมทหรือบนตัวเครื่องก็ได้ โดยไม่จำเป็นต้องใช้มือถือหรืออะไรเลย สมมุติเดินเข้าบ้านมาปุ๊บ กดเลขบนเครื่องหรือจากรีโมท ก็ฟังสถานีที่เราแแอดไว้ได้เลยทันที
นอกจากนี้เรายังสามารถ แอด music library เข้าไปในโปรแกรมได้ด้วย อย่างของผม ผมใช้ itunes ฟังเพลงอยู่ ก็แอด music library เข้าไปในโปรแกรมได้เลย อยากฟังอะไรก็เล่นได้เลยจากในโปรแกรม แต่เราต้องเปิด itunes และ คอมทิ้งไว้ เพราะมันสตรีมมิ่งกันอยู่ครับ , music library ผมมีเพลงอยู่เกือบ 150GB พบว่า sync ไปที่โปรแกรมเร็วๆๆมากๆๆ เทียบกับ Home Sharing ของ apple ที่หมุนอยู่นั่นแหละไม่ไปไหนซะทีแล้วก็เด้งออกบ่อยๆ
ข้อดีเมื่อเทียบกับตัว soundlink 2 หรือ 3 ที่เป็นระบบ bluetooth
1. การเล่นเพลงสะดวกกว่ามากๆๆๆๆๆ เช่น สมมุติว่าคุณมี iphone และ ipad, ถ้าคุณฟังเพลงจาก iphone อยู่ แล้วจู่ๆต้องการฟังเพลงจาก ipad คุณจะต้องปิด bluetooth บน iphone จากนั้นเปิด bluetooth บน ipad แล้วเผลอๆต้องเดินไปที่ลำโพงเพื่อกดปุ่ม bluetooth เพื่อให้มัน connect กับ ipad
แต่ปัญหานี้จะหมดไปทันที่ ถ้าใช้ระบบ airplay เพราะตัวลำโพง ST, iphone, ipad รวมถึงคอมที่มี itunes อยู่เชื่อมต่อกันผ่าน wifi อยู่แล้ว อยากเล่นจากเครื่องไหนก็ airplay เครื่องนั้นได้ทันที
2. สมมุติว่าคุณเป็นคนที่ชอบฟังเพลงวิทยุ online พอกลับมาถึงบ้าน คุณจะต้อง connect มือถือเข้ากับตัวลำโพง bluetooth ก่อน จากนั้นเปิด application ขึ้นมา เลือกสถานที่ชอบ แต่ถ้าเป็น SoundTouch คุณมาถึงปุ๊บ กดเลขบนตัวโพงหรือรีโมทก็ฟังได้เลยทันที
3. สมมุติว่าคลังเพลงหลักของคุณคือ itunes ที่อยู่บนคอม คุณจะต้อง home sharing เพลงทั้งหมดมาที่ iphone/ipad ก่อนแล้วค่อย bluetooth ไปที่ลำโพง ... ข้อเสียคือถ้าคลังเพลงคุณใหญ่มากๆ home sharing จะใช้เวลานานมากๆๆในการ sync และหลายครั้งก็เด้งหลุดออกบ่อยๆ (และคุณอาจต้อง home sharing ทั้ง ipad และ iphone) แต่ถ้าเป็นลำโพง ST คุณสามารถเล่นเพลงผ่าน itunes บนคอมไปที่ลำโพงโดยตรงเลยก็ได้ผ่าน air play หรือ คุณจะใช้แอพบน iphone/ipad ของ Bose ที่คุณ add library ไว้แล้ว ฟังเลยก็ได้ ซึ่งทำงานได้ดีกว่า home sharing มาก sync เร็วแล้วไม่มีอาการหน่วงหรือหลุดเด้งออกให้เห็น
4. ข้อดีของลำโพง bluetooth ที่ดีกว่าเพียงอย่างเดียวก็คือ ความคล่องตัว เพราะเล่นง่ายกว่า ไม่ต้องมี wifi อะไร เล่นโดยตรงผ่าน bluetooth อย่างเดียวขอแค่มือถือเครื่องนั้นมี bluetooth ซึ่งรุ่นใหม่ๆเดี๋ยวนี้มีหมดแล้วครับ
สรุปก็คือ เราต้องดูจุดประสงค์การใช้งานของเราเป็นหลักครับ แล้วค่อยเลือกลำโพงให้เหมาะกับความต้องการของเรา รีวิวอาจข้ามลายระเอียดในบางจุดไปบางนะครับ เพราะลูกเล่นมันเยอะ แต่หลักๆมีประมาณนั้น ถ้าใครมีคำถาม เดี๋ยวจะมาตอบให้ครับ
http://www.bose.com/controller?url=/shop_online/wifi_music_systems/soundtouch_music/soundtouch_30/index.jsp
ป.ล รูปทั้งหมดผมนำมาจาก internet ครับ