ให้ดูรูปกับคนบ้าง (คนในรูปไม่ใช่ผมนะครับ)

http://www.chestergroup.org/newyorkaudioshow/310-quads-new-qfloat-qaq-headphones-coming-to-the-new-york-show

http://www.chestergroup.org/newyorkaudioshow


อันนี้คือโฆษณาของเขาที่ประกาศว่าจะเปิดตลาดที่อเมริกา
New York, NY, Jan 24, 2013 – The magic of high performance audio takes center stage at the New York Audio Show, April 12 – 14, 2013 at the New York Palace Hotel. Along with demonstrations from more than 75 companies, the show will host a number of special events including the exclusive sneak preview and private screening of Last Shop Standing - the official Record Store Day Film for 2013, and the Classic Album Sunday listening experience.

Produced by the Chester Group, this second annual show is designed to share the wonder of music through quality audio. “Our inaugural U.S. event last year confirmed that there is a strong desire in the New York area to experience music beyond mp3 players,” said Roy Bird, Chairman of the Chester Group. “We are building upon that success with special events that will create even more excitement and we are thrilled that the New York Audio Show has been selected to preview the Last Shop Standing.”

QUAD's new "FLOAT QA" headphones coming to the New York Show
Back in 1971, Jürg Jecklin came out with his first Jecklin Float. At that time nobody could consider that the Float will get famous not only for the next 4 decades. Even today the concept behind the Float is close to perfect in it`s kind.

"The goal of the developement was to have a monitor system which allows a better control of what they are doing in a recording studio. For this purpose the Float has been designed as a tool, better than any monitor speaker in a room that hasn’t a perfect acoustic.” (translation: fono forum 9/1971).

Over the years the Float became a cult product. Recording engineers use them in there daywork and musiclovers from all over the globe enjoy it`s natural sound. In 2012 Jürg Jecklin lounched the new Float QA together with the new uncompromisingly designed power supply. Both produced by QUAD Musikwiedergabe, Germany. They also take direct orders. Delivery will get organised either direct from QUAD Musikwiedergabe or through your local dealer. Some call it a lucky fortune. After the first considerations soon it turned out that the concept behind the Float still is perfect in it`s kind. The Float is demanding it`s position in the professional world. For private use the Float or better the new Float QA offers natural sound. Without any flou of what we usually feel as disadvantages of heaphones. Float QA, in fact means two small electrostatic speakers. Perfectly placed in the right position to each ear. Benefit from a natural open sound which allowes to listen to music for hours. That`s why they call the new Float QA “wagnertauglich”. As in a concert hall the listener keeps the perfect orientation in the room

โอ้ว เห็นรูปแล้วผมคงไม่กล้าใส่เดินออกนอกบ้านแน่ๆ

รูปคนใส่ เหมือน professor ที่่เอาหนังสือ มาเป็น gadget แปะหูเลยค่ะ

ยอมรับเรื่องความน่าเกลียดครับ หลายคนคงไม่กล้สใส่ไปไหนเลย 555555

และแล้วช่องว่างระหว่าง Full size กะลำโพงบ้านก็ค่อยๆลดลง.... เหมือนเอาลำโพงบ้านมาแปะหูเบย อิอิ

รู้สึกเหมือนเอามาดามหัวให้ตรงเลย - -*

อารมย์คงคล้ายๆเอาลำโพงมาแปะหูนะครับ มิน่าเสียงถึงได้ดี เป็นหูฟังที่เหมาะกับการฟังในห้องส่วนตัวอย่างแท้จริง 555

ถ้าเขาดีไซน์ส่วนเพิ่มเติมอีกหน่อย คงไม่ค่อยต่างกับหมวกกันน็อคครับ
....มันน่าจะเรียกว่า หัวฟัง มากกว่าหูฟังรึเปล่าเนี่ย

ใครว่าน่าเกลียด เท่ออก ^^ ที่ดาวอังคารบ้านเกิดผมกำลังฮิตเลย อิอิ

/me โดนถีบปลิว...

ปล.ล้อเล่นนะครับ ^^ ดีไซน์แปลกดีแฮะ แบบนี้

หูฬังแบบ Electrostatic หรือฬังที่มีดีไซน์แปลก ๆ จะมีรูปร่างไม่ค่อยสวยมาก ซึ่งรวมทั้ง
หูฬัง Stax บางรุ่น Koss ESP 950, takeT H2+ รวมทั้ง new Jecklin Float QA แต่เสียงตรงข้ามกับรูปลักษณ์ภายนอก แต่คงหาคนซื้อมาใช้ได้น้อยเพราะคงขายออกได้ยาก ลักษณะน่าเกลียด แต่สวมใส่สบายเพราะ earcup ทำจากไม้ birch ซึ่งมีลักษณะเบามาก
อย่างว่าครับมันคล้าย ๆ กับ เอาลำโพงขนาดย่อม ๆ เอามาทำเป็นหูฬัง

เท่าที่ฬังเสียงเหมือน Stax รุ่นท็อปสุด แต่มีเวทีเสียง กว้างลึกสูงกว่ามาก ขณะเดียวกันก็มีเสียงเบสที่ดี มีไดนามิคที่ดีมาก ซึ่งคุณสมบัติบางอันที่กล่าวเป็นข้อจำกัดของหูฬัง Stax ผมว่าเทียบเท่ากับ Orpheus แต่เสียงกลางของ Orpheus ชวนให้หลงใหลมากกว่า ซึ่งบางคนก็ชอบมาก บางคนไม่ชอบนัก (ส่วนใหญ่ชอบมากกว่าไม่ชอบมาก) เสียงของ new Jecklin Float ออกเป็นกลาง ออกหวานเล็กน้อย ลักษณะเป็นแบบลำโพงมอนิเตอร์มาก ๆ เขาดีไซน์มาใช้ในห้องสตูดิโอเพื่อให้ได้ความถูกต้องเที่ยงตรงที่สุด เฉพาะ driver ก็มีขนาดใหญ่เป็นสองเท่าของ driver ของ Stax SR009 แต่ขับได้ยากพอควร ต้องขับโดย speaker post ของแอมป์หรือ Receiver ผ่าน Power Supply หรือ ทรานซฬอร์เมอร์ที่มีคุณภาพสูง ราคาค่อนข้างสูงแต่ทั้งระบบยังถูกกว่า Stax SR009 พอสมควรทีเดียว

น่าสนมากๆครับ รอโอกาศฟัง Demo...
แต่ตอนนี้ก็ไม่มีงบอยู่ดี...เฮ้ออออ

โอ้ว มันมีจริงๆหรอนี่ แทบไม่อยากจะเชื่อเลยครับ *0*

อย่างที่กล่าวมาแล้ว new Jecklin Float QA สร้างโดย Quad Musik ซึ่งเป็นผู้ผลิตลำโพง electrostatic ที่มีชื่อเสียงที่สุดคือ QUAD ซึ่งถ้าผมไม่ผิดพลาดเดิมเป็นของอังกฤษและขณะนี้เป็นของเยอรมัน คนออกแบบชื่อ Jurg Jecklin เป็นศาสตราจารย์เรื่องเสียงอยู่ในมหาวิทยาลัยในสวิส ใช้เวลามากกว่าสี่สิบปีค่อยพัฒนามาเรื่อย ๆจนประสบผลสำเร็จ และรักษาคุณสมบัติของ Quad Speaker คือพยายามให้เป็นเสียงที่เป็นธรรมชาติ ใกล้เคียงความเป็นจริงที่สุด
ตามที่เขียนตามข้างล่างนี้
I think Peter Walker of British Hi-Fi company Quad summed up what could be aimed at more than half a century ago "the closest approach to the original sound". I think this still holds true today.
Muppetface ซึ่งเป็นสมาชิก head-fi คนหนึ่งซึ่งบางคนอาจรู้จักดีเพราะเป็นคนที่มีหูฬังในครอบครองมากมายทั้ง headphone, UIEM หลาย ๆ ตัว ก็ยกย่องชื่นชมหูฬังตัวนี้มาก แต่เสียดายที่หูฬังของเขามีปัญหาต้องส่งกลับเพื่อซ่อมแซมแต่คงได้กลับมาในสัปดาห์นี้ และคงเขียนความเห็นเพิ่มเติมให้ฬังเพิ่มขึ้นอีกมาก

รอชมรายละเอียดครับ

เท่มาก..... เป็นผมชอบนะ ฟังที่ห้องไม่ได้เดินโชว์นอกบ้าน (แต่ถ้าเพื่อนมาก็อยากอวด มันจะได้มี Feedback งงงวยที่ว่า หูฟังหน้าตาแปลก เสียงถึงสวรรค์)

ดูภาพอีกที ไม่ถึงกับน่าเกลียดมากนัก ใส่สบายขอยืนยัน

ให้ดูภาพ drivers ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ใหญ่เป็นสองเท่าของ Stax SR009 และใหญ่กว่า Stax SR Omega ซึ่งเดิมถือว่ามี driver ใหญ่ที่สุด

ให้ดูภาพ drivers ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ใหญ่เป็นสองเท่าของ Stax SR009 และใหญ่กว่า Stax SR Omega ซึ่งเดิมถือว่ามี driver ใหญ่ที่สุด

Power Supply ที่เห็นกล่องอาลูมิเนียมสีขาว ขนาดไม่ใหญ่ แต่ขนาดหนักถึงเกีอบสิบกิโลกรัม

Power Supply อยู่ชั้นบนสุดครับ อยู่ข้างขวาของ Quad Einstein System
สุดยอดของ Quad amplifier (สีดำ สองชิ้น)

ชุดนี้เป็นชุดในฝันครับ

ที่จริง ผมว่ามันดูแย่มากๆก็ตรงโครงเฮดแบนน่ะครับ
ส่วนของบอดี้หรือเฮ้าส์ซิ่งกลับไม่เท่าไหร่
ถ้าดีไซน์่ตรงโครงให้สวยงามกลมกลืนสักหน่อยก็คงไม่....เท่านี้

ขอบคุณพี่เกียรติชัยมากๆๆเลยครับ ที่เอาข้อมูลแจ่มๆๆมาเล่าให้ฟัง 555

จริงๆ ผมว่าเจ้า New Jecklin Float QA นี่ ยังดูแล้วใส่สบายกว่า Ergo ซะอีก (ทรงคล้ายๆกัน)แต่จากขนาดแล้ว ท่าทางจะมั่นใจได้ว่ามันเยี่ยมจริงๆๆล่ะครับ 555

.........คงไม่ต้องถามว่าเสียงลอดมั้ย อิอิ

รอชมรายละเอียดครับ

ได้เขียนรีวิว Unboxing new Jecklin float ไปแล้วใน taf.in.th และ head-fi.org แต่เขียนไปเขียนมามีคนเขียนอยู่คนเดียว เลยหยุดเขียนชั่วคราวรอให้ muppetface ได้หูฬังที่ซ่อมกลับมาใหม่ ค่อยไปแจมอีกครั้ง ตอนนี้จะเปรียบเทียบโดยตรงกับ Orpheus
http://www.taf.in.th/showthread.php?t=59698
http://www.head-fi.org/t/607422/new-jecklin-float-qa/270 ตั้งแต่บทความที่ 272 ไล่มาเรื่อย ๆ

ที่จริง ผมว่ามันดูแย่มากๆก็ตรงโครงเฮดแบนน่ะครับ
ตรงเฮดแบนจริง ๆ เรียบร้อยกว่านี้ครับ

จริงๆ ผมว่าเจ้า New Jecklin Float QA นี่ ยังดูแล้วใส่สบายกว่า Ergo ซะอีก (ทรงคล้ายๆกัน)
กำลังรอรุ่นใหม่อยู่เหมือนกันครับ

โดยส่วนตัว ผมว่าสวยดีนะ

พี่เกียรติชัยครับ ผมเมล์หลังไมค์หาพี่แล้วล่ะครับ 555 ท่าทางจะน่าสนุกดีสำหรับ New Jecklin Float QA ล่ะครับ

ยินดีกับเฮียมั่นคง และสมาชิกทุกท่านนะครับ ที่เฮียมั่นคงให้ความสนใจและพิจารณาว่าอาจซื้อมา
ไว้ให้สมาชิกได้ลองฬังกัน โดยผลทางธุรกิจคงน้อยมากเนื่องจากคงมีคนซื้อไม่มากนัก

ถ้าเราสามารถดัดแปลงให้ Boybee ที่มีสามารถใช้กับหูฬังตัวนี้ได้ พร้อมกับใช้กับ takeT H2+ ได้ก็จะยิ่งดีเพราะจะช่วยลดราคาไปอีกครึ่งหนึ่งทันที ทำให้ราคาหูฬังทั้งสองตัวนี้จะถูกกว่า LCD, Fostex หรือ Stax ตัวท็อปอื่นเช่น O2mkI, O2mkII

นอกจากนั้นยังได้ข่าวว่าเฮียมั่นคงจะนำเอา King Sound Emperor ชุดหูฬัง electrostatic ชุดใหม่ ราคาเป็นกันเองเข้ามาด้วย
Drew Baird ได้ชื่นชมหูฬังชุดนี้มากและคิดว่าจะเป็นชุดที่ร้อนแรงที่สุดในปีนี้เนื่องจากคุณภาพดีมากและราคาเอื้อมถึง
คงมาถึงเดือนหน้า http://forum.munkonggadget.com/detail.php?id=100824

อีกตัวหนึ่งที่ผมกำลังจับตามองดูอยู่คือ JVC DX2000 เป็นหูฬังรุ่นเรือธงตัวใหม่ แทนที่ JVC DX1000 ซึ่งมีความต้องการสูงพอควรแต่หาซื้อไม่ได้ ข่าวที่ได้มาว่าเสียงดีขึ้นกว่าเดิมอีก
เสียงกลางหวานที่สุด เสียงเบสหนักแน่นพอ ๆ กับ Audiotechnica L3000

http://forum.munkonggadget.com/detail.php?id=101556

http://www.jvc.com.cn/headphone/ha-dx2000/index.html

http://www.head-fi.org/t/645233/jvcs-new-flagship-dx2000

เหมือนกระโหลกแตกแล้วต้องดามหัวเลยครับ

หุหุ

อยากลองเสียงตรับ ไว้ร้านเฮียมีเมื่อไหร่ไปขอลองได้ไหมอ่ะครับ

ท่านที่ชอบเสียงของ Fostex TH900 ซึ่งมีคนบอกว่าคล้าย Sony R10 ซึ่งเป็นหูฬังในตำนานที่มีคนถามหา มากที่สุด แต่ยังไม่อยากจะลงทุนมากนัก เพราะราคาเกือบเจ็ดหมื่นบาท ก็จะมีรุ่นที่คล้ายคลึงกันมากออกมา สีดำ pure black น่าจะวัยรุ่นกว่า ออกมาในระยะเวลาใกล้ ๆ กัน ภายในเดือนเมษายนนี้ รุ่นนั้นก็คือ Fostex TH600 ราคาประมาณ 1000-1200 $ หรืออาจถูกกว่านั้นถ้าเชื่อตาม facebook ของ Fostex 80,000-84,000 Yen ซึ่งน่าสนใจมากว่าเพราะราคาเงินเย็นลดไปแล้วเกือบยี่สิบเปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับเงินบาท คงตกไม่ถึงสามหมื่นบาท ถ้าเสียงใกล้เคียงกันมีสิทธิ์ได้เฮเสียเงินกันบ้าง

http://www.head-fi.org/t/631594/fostex-th600-dynamic-headphones

ที่จริง ผมว่ามันดูแย่มากๆก็ตรงโครงเฮดแบนน่ะครับ
ส่วนของบอดี้หรือเฮ้าส์ซิ่งกลับไม่เท่าไหร่
ถ้าดีไซน์่ตรงโครงให้สวยงามกลมกลืนสักหน่อยก็คงไม่....เท่านี้

ตัวนี้ผ่านการออกแบบมาอย่างพิถีพิถันที่สุดแล้วครับ (แต่ได้แค่นี้) คงเป็นเพราะชาวยุโรปโดยเฉพาะชาวเยอรมันสนใจในคุณภาพมากกว่าลักษณะภายนอก เฉพาะกรอบไม้ข้างนอกกว่าที่เขาจะตัดสินใจได้ว่าใช้ birchwood นี่ต้องผ่านการทดลองมานานกว่าสองปี ให้ได้น้ำหนักเบา ใส่สบาย และมีผลทาง acoustic ที่ให้เสียงเที่ยงตรงที่สุด จะเห็นว่าเขาไม่ใช้ earcup เพราะเขามีความเชี่อว่า earcup ถึงแม้ทำให้เสียงเบสดีขึ้น isolation ดี ตัดเสียงจากภายนอกได้ดี แต่ก็ทำให้เกิดการสะท้อนของเสียงซึ่งทำให้ความเป็นธรรมชาติเสียไป ดังนั้นจึงไม่มี earcup และเขาไม่เรียกว่า headphone แต่ใช้คำว่า Ear Speakers เหมือนอย่างที่เพื่อนสมาชิกท่านหนึ่งบอกว่เหมือนกับเอาลำโพงมาแปะข้างหู อย่างนั้นเลยครับ และยังอ้างว่าของเขาเป็น true earspeakers ยิ่งกว่า near field speakers อีก

หูฬังอีกยี่ห้อหนึ่งที่จะออกมาในเดือนเมษายนคือเจ้าของ Final Audio ซึ่งทำหูฬัง Final Audio UIEM ที่ทุกคนรู้จักดี ว่าให้เสียงกลางที่หวานมากเลียนแบบ horn speakers ก็จะออก Final Audio Muramasa VIII ซึ่งรุ่นแรกยกเลิกไป แต่จะออกรุ่นใหม่ที่ราคาย่อมเยากว่าเดิม ออกมาพร้อมกันทีเดียวสามรุ่น อันนี้ผมก็เตรียมเสียเงินไว้แล้ว แต่จะพยายามให้เสียเงินน้อยที่สุด คือซื้อรุ่นท็อปเลย ไม่ซื้อรุ่นถูก แล้วขายออกไปซื้อรุ่นสูงขึ้นไปเรื่อยแล้ว เพราะอย่างไรก็แก้ความคันไม่ได้ กลับยิ่งคันมากขึ้น ยิ่งเสียเงินมากขึ้น
เอารูปชุดเดิมมาให้ดู หมายเหตุ Muramasa เป็นซามูไรญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียงมากที่สุด แต่จิตวิปลาสไป
อันนี้ก็น่าสนใจเมื่อค่าเงินเย็นอ่อนค่าลง น่าจะถึง 30บาทต่อหนึ่งร้อยเย็น (ตอนนี้ก็ 31+ บาทแล้ว)

ตัวอื่นที่รอฬัง แต่อาจไม่ซื้อคือ closed back LCD
http://www.head-fi.org/t/631590/audeze-closed-back-prototypes-yeah-this-is-one-of-the-headphones-at-the-top-of-my-wish-list

ที่มีแต่ข่าวลือ ไม่เห็นแม้แต่ภาพ demo prototype
แต่ Stax Mafia อย่าง Kevin Gilmore, Spritzer ยืนยันว่า Sennheiser
กำลังพยายามทำ orpheus รุ่นใหม่ อันนี้คงต้องเก็บเงินซี้อหลาย ๆ ปี
http://www.head-fi.org/t/252156/sennheiser-working-on-new-electrostat

สรุป ประมาณเดือนเมษายนนี้คงมีหูฬังรุ่นเรือธงและเกือบเรือธง ออกมากันให้สมาชิกได้มีประสบการณ์ เตรียมเก็บแต็ะเอียไว้ให้ดีตั้งแต่ตอนนี้เลย

AKG K1000 เค้าเท่จะตาย

ขอบคุณพี่เกียรติชัยมากๆๆครับ 555 ผมก็ได้อาศัยข้อมูลของพี่นี่ล่ะครับ


สำหรับ King Sound Emperor นั้น คุยเสร็จแล้วครับ คือตกลงซื้อขายเสร็จแล้ว เพียงแต่เค้าแจ้งผมว่าสินค้านั้น กว่าจะส่งรอบแรกได้คือปลายเดือนมีนาคม อันนี้คอนเฟิมครับว่ามีมาแน่นอน

ส่วนหูฟัง New Jecklin Float QA นั้น พี่เกียรติชัยช่วยชี้เป้าให้ ซึ่งผมจะลองเมล์คุยก่อน ถ้าไม่ได้ยังไงคงรบกวนพี่เกียรติชัยล่ะครับ ซึ่งตัวนี้เนื่องจากรูปร่างมันอลังการงานสร้างจนคนธรรมดาอาจจะไม่กล้าใช้ แต่ผมว่าจะสั่งมาวางไว้ที่มั่นคงเรือธง ให้ได้ฟังกันล่ะครับ

ส่วนอีกตัวที่มีแน่ๆๆคือ Closed Back LCD3 ซึ่งผมไม่ทราบกำหนดวางตลาดแน่นอนในตอนนี้ แต่ถ้าทั่วโลกวางเมื่อไหร่ ที่มั่นคงก็มีแน่นอนพร้อมเค้าทันทีครับ อันนี้รอติดตามได้เลยครับทุกๆๆ ท่าน

AKG K1000 เค้าเท่จะตาย
อันนี้แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน เช่นเดียวกับ New Jecklin Float QA
AKG K1000 ใน head-fi ติดอันดับทั้งหูฬังที่สวยที่สุดและหูฬังที่น่าเกลียดที่สุด
สำหรับ New Jecklin Float QA ผมใช้เสียงของภรรยาของผมซึ่งสำคัญที่สุด ว่าน่าเกลียด
ที่สุดในบรรดาหูฬังที่ผมมี ไม่มีข้อโต้เถียงครับ

555 จริงครับ เสียงภรรยาสำคัญที่สุดครับ ไม่มีเหตุให้โต้แย้งแต่อย่างใด 55

ผบ.ทบ. (ผู้บัญชาการที่บ้าน)สูงสุด xD

คิดว่าน่าจะเป็นเอกฉันท์ครับ
สำหรับเรื่องที่เฮียถามมาเกี่ยวกับ New Jecklin Float QA system ขอตอบตรงนี้เพื่อให้สมาชิกท่านอื่นทราบด้วย
ชุดประกอบด้วยสามส่วนคือ
หูฬัง
Power supply (transformer)
Speaker amplifier
หูฬังและ Power supply ซื้อจากของ Quad Musik ครับ
ส่วน speaker amplifer คือแอมป์ที่สามารถเล่นลำโพงได้คือมี speaker post อยู่ทางด้านหลัง ใช้ของเราเอง(ถ้ามี) หรือจะซื้อของเขาก็ได้เขามีแอมป์ของ Quad ขายด้วย เช่น Quad 405 etc ซึ่งสามารถขับ new Jecklin Float ได้และเสียงเข้ากันได้ดีอยู่แล้ว ยิ่งเลือกแอมป์รุ่นสูงขึ้นก็จะได้คุณภาพเสียงดีขึ้น เช่นรุ่นท็อปคือ Einstein Audio " The Absolute Tune" จะเสียงดีที่สุด (อันนี้ไม่ใช่ของ Quad ครับ) และสามารถขับลำโพง Electrostatic Quad ESL รุ่นต่างๆ ได้เป็นอย่างดี

ตัวหูฬังคงเห็นไปแล้ว ตัวหูฬังนี้ถูกขับโดย power supply (transformer)
โดยตัว power supply จะต่อจากแอมป์ผ่าน speaker post ของแอมป์

นั่นก็คือ จาก source CD player or computer ไปยัง แอมป์ จากแอมป์ผ่าน speaker post ไปยัง power supply (โดยใช้ jumper cables) ทางด้านหน้าของ power supply จะมี headphone sockets อยู่สองชุด (เป็นแบบ 5pin เฉพาะตัวของ new Jecklin Float) ต่อเข้ากับ new Jecklin Float หรือหูฬัง Jecklin รุ่นก่อนหน้านี้ได้
อันนี้เป็นรูปทางด้านหน้าของ power supply

ทางด้านหน้าของ power supply นอกจากจะเห็น headphone sockets สองชุดแล้วยังมีสวิทช์อยู่ตรงกลางหนึ่งอัน เพื่อเลือกว่าจะให้สัญญานไปที่หูฬังหรือผ่าน speaker post ของตัว power supply ไปยังลำโพงชุดอื่นได้
ถ้าดูจากภาพทางด้านหลังจะมีชุด speaker post สองชุด ชุดหนึ่งนำสัญญานมาจากแอมป์
อีกชุดหนึ่งสำหรับต่อกับสายลำโพงไปยังลำโพงได้อีกชุดหนึ่ง
ดังนั้นถ้าต่อเรียบร้อยแล้ว เราจะสามารถเลือกฬังหูฬัง หรือจะให้ออกลำโพงได้ อย่างใดอย่างหนึ่ง แต่ไม่ทั้งสองอย่างพร้อมกัน ไม่อย่างนั้นคงแปลกเพราะใส่หูฬัง ฬังเพลง และฬังลำโพงด้วย

ภาพข้างบนแสดงด้านหลังของ transformers

ของผมเวลาต่อ ผมต่อจากแอมป์ มายัง power supply ของ Jecklin Headphone
แต่ผมไม่ได้ต่อไปยังลำโพง ถึงแม้มีสายลำโพงและลำโพง แต่ไม่มีที่วางลำโพงและเนื่องจากสถานที่คับแคบไม่สามารถปรับตำแหน่งของลำโพงได้ จาก speaker post ของ power supply
ผมจึงต่อไปยังทรานซฬอร์มเมอร์ของหูฬังชุด takeT H2+ ซึ่งเป็นหูฬังที่เสียงดีมาก (น่าจะติดอันดับท็อปเท็นได้) ตามรูป ผมต้องวางซ้อน เนื่องจากถูกจำกัดระยะทางโดยความยาวของ jumper cables ซึ่งโดยทั่วไปมีขนาดความยาวที่ 8" แต่ผมใช้ขนาด 14" แล้วยังขยับได้เพียงเท่านี้ (ดูรูป) ที่เห็นสีขาวอาลูมิเนียมเป็นทรานซฬอร์มเมอร์ของ Jecklin ส่วนอันบนเล็กกว่าเป็นทรานซฬอร์มเมอร์ของ takeT H2+

รูปนี้น่าจะเป็นทรานซฬอร์มเมอร์สองชุดวางซ้อนกันครับ

อันนี้เป็นรูปของ jumper cables ชนิดต่าง ๆ ที่เคยทดลองใช้
ที่ดีที่สุดในชุดนี้คือ Nordost Valhalla ราคาแพงมากตัดใจซื้อมาหนึ่งชุดเป็นแบบ factory termination ไม่ใช่ชนิดซื้อสายมาต่อหัวท้ายเอง นอกนั้นที่จำได้เป็น Chord silver, Van den Hul, Cardas
แต่ที่ใช้ปัจจุบันสำหรับต่อทรานซฬอร์มเมอร์ทั้งสองชุด ผมใช้ NBS (Nothing but signal บางคนเรียกว่าเป็น No Bull shit แปลว่าไม่โกหก) เพื่อให้เป็นทิศทางเดียวกันและพบว่าให้เสียงดีกว่า Nordost Valhalla อีกคือ นอกจากเสียงเปิด รายละเอียดดี เวทีเสียงกว้างแบบ Nordost Valhalla แล้ว ยังพบว่าแบคกราวนด์เงียบจริง ๆ ทำให้รายละเอียดดีขึ้นไปอีก ขณะที่น้ำหนักเสียงดี จึงได้เสียงเบสที่ดีกว่า Nordost Valhalla ในนี้ไม่ได้แสดงให้ดู เพราะติดอยู่กับชุดทั้งสอง set
ของคนไทยที่มีทำขายก็เป็น Analysis plus silver oval, copper oval ที่ร้าน
บอมบอม เลือกขนาดให้ยาวได้ได้เพราะต้องยาวอย่างน้อย 12-14" หรือมีคนหนึ่งเอาสายรุ่นรองของ Nordost เช่น Nordost Tyr มาทำขาย แต่ก็แพงเหมือนกัน และคิดราคาตามความยาว

ผมพบว่าจาก transformer ของ takeT H2+ ยังสามารถต่อได้อีกหนึ่งชุด
เลยเอาสาย adapter cable Kimber Kable ของคุณคณิต ที่ต่อจาก speaker post ไปยัง 4 pin XLR ไปต่อเข้ากับ AKG K1000, HE6 ได้อีก
ดังนั้นจึงเป็นการต่อให้ใช้หูฬังได้ทีเดียวทั้งสี่ชุด แต่ต้องสับสวิทช์ และเสียบต่อหูฬังใหม่บ้าง
หูฬังจึงสามารถเปรียบเทียบกันโดยตรงคือ new Jecklin Float QA, takeT H2+,
AKG K1000, HE6
รูปข้างบนแสดงทั้งสี่ชุด กรุณาสังเกตดูขนาดของไดรเวอร์ของแต่ละชุด จะพบว่า HE6, AKG K1000 เป็นรุ่นจูเนียร์ไปเลย

จะลองเปรียบเทียบความสวยงามทั้งสี่ชุดดูก็ได้ครับ แต่คุณภาพเสียง ไม่ขึ้นกับรูปลักษณะภายนอกเลย

ขอบพระคุณสำหรับข้อมูลและภาพประกอบมากๆๆครับพี่เกียรติชัย

ตอนนี้ผมให้หมูหวานช่วยดูเรื่องการต่อ และให้หมูหวานดำเนินการสอบถามและสั่งซื้อล่ะครับ ติดขัดประการใด ตามที่แจ้งไว้ในเมล์ล่ะครับ คงได้รบกวนพี่เกียรติชัยอย่างแน่นอนครับ 555

ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้
สุขภาพแข็งแรง มีความสุขครับพี่ ^^

จริงๆหนูแจ็กกี้ก้อไม่ได้มีค่าตัวมากเกินเอื้อมน่ะครับ ยิ่งฟังพี่บรรยายเรื่องเสียงแล้ว นอนฝันเลย 555... แต่ทรวดทรงหนูแจ็กกี้นี่ ดูแล้วทำใจยากจริงๆ 555 อยากลอง ... แต่กลัวคนที่บ้านบ่นบ้านแตก 555

จริงๆถ้าไม่กลัวเสียดีไซนด์ตัวหูฟังเค้า (ถ้าคิดว่าเค้ามีดีไซนด์อยู่บ้าง 555) สั่งตัดหนังมาคลุมลวดข้างบน ก้อน่าจะพอรับได้อยู่ อิ อิ อิ แต่พอหันมาเจอกล่องเหลี่ยมเหลี่ยมเหมือนหม้อแปลงบ้านหม้อสมัยก่อนก้อมึนตึบครับ 555

555 พี่ธนวัฒน์น่าจะได้ฟังน้องโฟลทล่ะครับงานนี้ 555


ผมให้หมูหวานเมล์ติดต่อแทนผมแล้วครับ เพราะหมูหวานจะเป็นคนที่คุยเรื่องไฟฟ้าและเทคนิคได้ดีกว่าผม ก็เลยให้หมูหวานจัดการสั่งซื้อแทนครับ

ในท้ายเมล์ผมมีแอบอ้างชื่อพี่เกียรติชัยเล็กน้อย ว่าเป็นคนแนะนำและให้อีเมล์ที่ติดต่อมาด้วยล่ะครับ ซึ่งต้องขอบพระคุณพี่เกียรติชัยมากๆๆเลยครับ 555

รอฟังครับเฮีย

ได้เลยครับป๋ายศ ตอนนี้ให้หมูหวานดำเนินการเมล์หาและสั่งแล้ว และถ้าฟังสนุกเผลอๆต้องสั่งมาขายล่ะครับ 555

หูพวกนี้ผมกลับมองว่าไม่น่าเกลียด คือขอให้มันเสียงดีเท่านั้นเป็นพอ เราใส่อยู่ภายในบ้าน มีแต่เมียเท่านั้นที่มองเห็นล่ะครับ 555


เอ้า รอน้องเจ๊กกิ้ง โฟลท กันนะครับ

ภรรยาของผม เขามองครั้งเดียวครับ แล้วไม่กลับมามองอีกเลย
ผมเลยได้โอกาสสะสมของอย่างอื่นด้วยเช่นตอนนี้ที่ญี่ปุ่นราคาเยนถูกมาก
และมี DSD DAC ซึ่งคุณภาพดีราคาไม่แพงมาก แผ่น SACD ก็มีวิธีการ rip
เข้าคอมพิวเตอร์แล้ว ผมเลยสะสม SACD จากญี่ปุ่นแผ่นหายาก ปรากฏว่าภรรยา
ผมเขาไม่ทราบเลยครับ ตอนนี้กำลังหาทางเครื่องเล่นแผ่นเสียงอีกสักชุดหนึ่ง ไม่รู้ว่าจะรอดไหม

ขอบคุณเฮียมั่นคงมากแทนสมาชิกท่านอื่นด้วย ที่ลงทุนในการซื้อมา ลองฬังของเฮียก่อน
ก็ได้ครับ อย่าเชี่อผมคนเดียวเพราะเป็นมือสมัครเล่น ถึงแม้ราคาไม่แรงมาก แต่อาจขายต่อออกไม่ได้
ราคาดี อย่างไรก็ตาม Muppetface ได้ให้ความเห็นไว้ดังนี้ว่า

I don't want to say too much yet, as it's still quite early in my evaluation, but so far I'm really impressed just in terms of sound quality alone. Impressed enough to where I'm willing to deal with the hassle of getting these serviced across the globe. Their tonal balance seems quite linear in the mids and highs, actually somewhat reminiscent of the SR-009 in their accuracy, though they strike me as slightly less bright in the upper region. Their sound has a definite electrostatic clarity to it, but with a lower-end weight and voluminous body more akin to the LCD-3. In fact, I'd say the bass may be a wee bit too prominent on this current setup (ie. with the Leben). When paired with a more transparent amp however I suspect it evens out, something I could partially confirm with a brief swap-out using a lowly T-amp (these STILL sound amazing even with a T-amp). The midrange is pure 'stat goodness, open and clear. The overall presentation is detailed, but it's far from analytically sterile in this regard, avoiding the "hi-fi sparkle" pitfall many audiophile headphones succumb to in an effort to throw details in the listener's face. In terms of pure detail extraction however, it's not going to outclass the SR-009 in my opinion.

One thing it has going for it however that no Stax can quite match is its spatial presentation. Likely due to the design of its drivers and frame, the sound "beams" in a manner similar to the K1000, Qualia, and H2+ (not to mention the original Floats). Like these headphones its sound possesses a truly expansive character that psychologically extends well beyond the confines of the headphone frame. Imaging and instrument separation are quite stunning, and there's a truly addictive sense of depth with these headphones. However as of now I still find the TakeT H2+ to be the top contender when it comes to conveying a sense of presence. Also there's something unusual about their presentation that is both really enjoyable but also a little distracting. It's most clear to me with vocals. Since lead vocals are usually front and center in a track, I think it's a helpful illustration: with the SR-009, center vocals sound like they're centered but somewhat in front of you; with the Floats, they literally sound smack dap in the center of your skull. Sort of like with IEMs that give a more "heady" presentation versus the more externalized sound of fullsized headphones. Oddly enough, everything else that falls outside the central-most point of a track's space sounds very distinctly "out there" relative to the listener. It's a strange combo, to hear instruments psychologically well beyond the frame of the headphones, but vocals (and other centered instruments) sound like they're between your ears. Takes a little while to get used to, but overall the headphones are very non fatiguing, and I could listen to them for a long time in a single sitting.



Thus far I can say I'm both thrilled and also exacerbated. In terms of sound quality, these headphones are shaping up to be top contenders, worthy of a place alongside the stats of Sennheiser and Stax, the esoteric piezo H2+, and legendary orthos. The biggest issue however is their build quality, which has been a major disappointment. The fact that these sound so exceptional to my ears only makes the QC problems all the more frustrating. I feel it's worth the effort of getting them fixed, and if the problems can be sorted out, I think I'll have a new favorite headphone.
จะเห็นว่า Lori (Muppetface) ก็ยกไว้ระดับเดียวกับ Orpheus, Top Stax headphone, takeT H2+ เสียงสูงไม่จัดจ้านเหมือน SR009 ขณะที่เสียงเบสดีกว่า
เวทีเสียงดีกว่า Spatial resolution ดีกว่า, Imaging & การแยกชิ้นดนตรี เขาใช้คำว่า Stunning ติดตรงที่ build quality เท่านั้น

เรื่อง Build Quality สำหรับผมไม่เป็นปัญหาเลยครับ


ยิ่งพี่เกียรติชัย ผมว่าเล่นทะลุเลยขั้นจะมามองเรื่อง Build Quality ไปไกลลิบลับแล้วล่ะครับ 555

หูฬังที่เสียงดีมาก แต่น่าเกลียดและ build quality ที่ไม่ดีอีกตัวหนึ่งคือ takeT H2+
เสียดายที่ทรานซฬอร์เมอร์ใช้ด้วยกันไม่ได้ อันนี้เวทีเสียงกว้างและลึกที่สุด (ทดสอบโดยใช้แผ่น
Chesky record) ถึงแม้ความสูง new Jecklin float จะดีกว่า แต่ H2+ จะมีเสียงเบสที่หนักแน่นกว่า อิมแพคดีกว่า แต่เนื่องจากเน้นตรงเสียงเบสมากไปหน่อยเลยฬังนาน ๆ จะสู้ new Jecklin float ไม่ได้
ความเห็นของผมคล้าย ๆ กับของ Muppetface ครับ ต่างกันตรงที่เสียงร้องที่ Muppetface พูด ผมรู้สึกว่าเหมือนมันอยู่ใกล้ตัวมาก ๆ ในบางเพลงเท่านั้น ส่วนใหญ่ยังรู้สึกว่ามาจากทางด้านหน้าแบบใกล้ตัวมาก ๆ

ได้ลอง JVC DX2000 โดยบังเอิญ เสียงดีกว่า DX1000 จริงๆครับ

ทั้งหวานกว่า อิ่มกว่า เบสหนักกว่า ผมชอบมากกว่า Fostex TH900 ซึ่งรายละเอียดดีกว่า แต่ไม่ค่อยได้อรรถรสในการฟังเพลงสำหรับผมครับ

JVC DX2000 คงมีในเมืองไทยแล้วครับ
ไม่ทราบว่าตั้งราคาเท่าไร
เพราะราคาที่ทราบมาเป็นเงินหยวน แพงกว่า DX1000 พอสมควร

ขอบคุณพี่เกียรติชัยสำหรับรีวิวดีๆครับ

JVC DX2000 ราคาศูนย์ไทย 45,900 ครับ

ราคาดีนะครับถ้าคิดเทียบกับราคาเป็นเงินหยวน

สำหรับ King Sound Emperor น่าสนใจเหมือนกันครับ
สั่งเฉพาะหูฬังได้หรือไม่ครับ เพราะมี Stax amplifier หลายตัวเช่น SRM 300 น่าจะใช้ได้
แต่อยากให้เช็คด้วยครับว่าใช้กับ Stax 727A, Aristaeus amplifier ได้หรือไม่ครับ
สองตัวหลังนี้ bias voltage 580V, 500V ตามลำดับ
และขอเช็คด้วยครับว่าสายต่อเป็น 5pin แบบ Stax SR009 หรือไม่ครับหรือเป็นแบบ 6 pin

พี่เกียรติชัยนี่ถึงขั้นไร้รูปไร้ลักษณ์จริงๆ 555 ผมเสียงดีไม่พอ ขอหน้าตาดีด้วย 555

.... อยากเดินตามรอยพี่ไปหาน้องแจ็กกี้ แต่สงสัยหูจะไม่ถึง อิ อิ อิ

สำหรับ king sound emperor นั้น เค้านัดให้ผมชำระเงินตอนปลายเดือนนี้ (ตอนนี้เป็นช่วงหยุดตรุษจีน) แต่สินค้าจะส่งได้เดือนมีนาคม

ซึ่งผมถามเค้าชัดเจนว่าสลับเปลี่ยนกับหูฟัง stax ได้หรือไม่ ทาง king sound แจ้งว่าได้ทุกอย่างครับ

ถ้าพี่เกียรติชัยสนใจ ผมจะสั่งเผื่อมาให้พร้อมกับเดโมที่ผมสั่งได้ครับพี่ บอกมาได้เลยครับ 555


ส่วนน้องโฟลท ผมให้หมูหวานดูแลการสั่ง ถ้าไม่ได้จริงๆผมต้องรบกวนพี่เกียรติชัยล่ะครับ 555

หูฟังเจ๊กกลิ้ง เอ๊ยๆๆ Jecklin ผมรอทางนู้นตอบอยู่ครับ ถ้าวัน สองวันนี้ยังไม่ได้รับคำตอบ จะเร่งเมลล์ไปถามอีกทีจ้าา

เดี๋ยวลองดูรูปลักษณ์ สเปค และคุณภาพเสียงก่อนครับ
ถ้าเป็นตามที่ Drew Baird เขียนไว้ก็คงมีสิทธิ์ครับ

รายงานข่าวครับพี่เกียรติชัย ตอนนี้ทาง Quad ยินดีที่ทางร้านมั่นคงสนใจในผลิตภัณฑ์ และเค้าก็สนใจจะติดต่อเราด้วยเช่นกัน และเค้าแจ้งราคาให้ผมแล้วครับพี่ ทุกอย่างเรียบร้อย ราบลื่นดีครับ 555

เดี๋ยวผมจะทำการสั่งและคงจะโอนเงินให้เค้าได้ในวันจันทร์

ตอนนี้มีท่านใดที่อ่านอยู่แล้วสนใจ สามารถบอกผมได้นะครับ รอบนี้ผมจะสั่งแบบไม่มีกำไรให้ท่านที่สนใจครับ รับจำนวน 2 ท่าน รวมตัวผมเอง 1 คน รวมเป็น 3 ชุดที่จะสั่ง

ใครอยากขึ้นขบวนรถไฟแจ้งได้นะคร้าบบ ราคาหย่อนแสนไปเป็นหมื่นครับ ท่านใดอ่านเจอบอกได้จ้าๆๆๆ


ต้องขอบคุณพี่เกียรติชัยมากๆเลยครับ ที่แนะนำผมนเข้าถึงเป้าหมายได้อย่างรวดเร็วจริงๆๆเลยล่ะครับ

สั่งมาก่อนแล้วค่อยประกอบแอมป์ตาม ดีมั๊ยเนี่ย

จะสั่งพร้อมกับผมได้นะครับป๋า เดี่ยวจัดให้จ้าๆๆ ชุดนี้ made in Germany เลยนะคร้าบบ

ใครมีแอมป์หรือประกอบแอมป์เองได้ พลาดไม่ได้จริงๆๆ ผมคุยกับพี่ธนวัฒน์ว่า จะเอา Ayre AX-7 มาขับดู น่าจะแมทชิ่งสุดยอดไปเล้ยยย 555

เฮียสั่งมาแบบไหนครับ
เฉพาะหู+หม้อแปลง แล้วแอมป์เขามีขายด้วยรึเปล่า

ผมว่าจะสั่งมาเฉพาะหูกับหม้อแปลงครับ ส่วนแอมป์มาหาแมทช์เอาข้างหน้า 555

แต่เห็นพี่เกียรชัยบอกว่าเค้าก็มีแอมป์ขาย แต่ผมยังมองหาไม่เห็นเลยครับ สงสัยต้องรอพี่เกียรติชัยมาบอกครับป๋า หรือป๋าสมยศเห็นลิงค์ ส่งให้ผมทีจ้าๆๆๆ

ไปอ่านที่อ.เกียรติชัยเขียนในTafแล้ว

ถ้าจะใช้หูนี้ต้องโดนหม้อแปลงเฉพาะอีกตัว รวมๆแล้วถ้าได้ราคาดีก็น่าสนใจครับเฮีย

หม้อแปลง..

หนักจริง อิ อิ

ถ้าสนใจจะสั่งพร้อมผม แจ้งได้ทันทีเลยนะครับ 555

สั่งชุดนี้ จะมี 2 ฃิ้นหลักๆๆ คือ หูฟัง + หม้อแปลงครับ


ส่วนแอมป์ขับของ Quad ผมกำลังเมล์ถามเค้าอีกทีจ้าๆๆๆๆ

แอมป์ของเขามีขายครับ ซึ่งดูแล้วราคาอาจแพงกว่าอีเบย์บ้างไม่มาก
แต่คุณภาพรับประกันได้ มีทั้งใหม่และ refurbished
สำหรับแอมป์ระดับต้นเขาแนะนำ Quad 405 ซึ่งเขาบอกว่าเขาจูนหูฬังตัวนี้
ให้เข้ากับแอมป์ Quad ของเขาครับ ราคาถ้าจำไม่ผิดประมาณหมื่นกลาง ๆ
และก็มีรุ่นที่แพงขึ้นไปอีก แต่บางตัวแพงมาก เขาจะแนะนำเองว่าไม่คุ้มและเสียง
ไม่ดีเช่นที่เห็นตาม audiogon โฆษณาไว้

Sam76 ก็ซื้อกับเขาเข้าและบอกว่าดีมาก ถาม Manfred Stein ได้โดยตรงครับ
แอมป์ตัวนี้ขับลำโพงอื่นและลำโพงอีเลคโตรสแตติกเช่น Quad ESL 57 แบบเป็นเนื้อคู่กัน

ถ้าคุณสมยศสามารถทำทรานซฬอร์มเมอร์ได้ยิ่งดีครับ เพราะราคาจะลดลงไปครึ่งหนึ่งทันที
และน่าจะได้คุณภาพดีกว่า

Muppetface ได้ของคืนมาแล้วครับ คงจะมีความเห็นเพิ่มเติมไม่ช้าเพราะว่าคราวนี้ใช้การได้ดี

ถ้าของเฮียมาช้า จะเอาของผมลองไปทดสอบดูก่อนได้ ผมเพียงยังไม่อยากแกะออกไป
เพราะสาย jumper cables ที่ใช้มันแข็งมากถึงแม้ว่าเสียงดี แกะกันทีเล่นเอาเหนื่อยแล้ว
แต่ถ้าจะเอาจริง ๆ ก็ได้ครับ จะได้เอาไปเทียบกับ Aristaeus amplifier + SR009 +
Orpheus ซึ่งตอนนี้ผมฬังอยู่ตลอด (ยกเว้น Orpheus เอาเข้ากล่องเป็นระยะ) และฬังเทียบกับ EAR HP4 + Sony MDR R10 บ้าง ส่วน takeT H2+ ก็ต่อกับทรานซฬอรม์เมอร์กับทรานซฬอรมเมอร์ของ Jecklin ครับ สลับกันไปมาแล้วแต่ชนิดของเพลง ถ้าเพลงป็อป ร้อค ก็ต้้อง takeT H2+ , R10 Audiophile ,Classic Jazz, Classic Rock ก็เป็น Jecklin ถ้าเป็นเพลงร้องหวาน classic แบบ baroque ก็ SR009 ถ้าเอาสุนทรีย์มาก ๆ ก็ Orpheus บางทีต้องสลับกันเพราะกลัวแอมป์มันร้อนเกินไป เพราะผมไม่มีที่ต้องวางซ้อน

ขอบพระคุณพี่เกียรติชัยมากๆๆเลยครับ ตอนนี้หมูหวานเมล์ไปถามเรื่องแอมป์แล้วล่ะครับ คือยังไงที่ผมมีแอมป์หลายตัวให้เล่นอยู่ เผลอๆๆอาจจะได้ลองกับแอมป์ Ayre ก็ยังได้ครับพี่ (ยืมเค้า) 555

ผมไม่รบกวนพี่เกียรติชัยล่ะครับ สั่งไปแล้วค่อยๆลุ้นตอนของมา และรอเค้าเปิดตัวครั้งใหญ่เดือนเมษา เป็นอะไรที่ตื่นเต้นและรอคอยดีครับพี่ แต่ถ้าติดขัดอะไร ผมรบกวนขอปรึกษาพี่อย่างแน่นอนเลยครับ 55


ตอนนี้ถ้าใครสนใจอยากจะสั่งพร้อมกับผม ติดต่อมาได้นะครับ ผมน่าจะทำการโอนเงินให้เค้าราวๆๆวันอังคารหน้าจ้าๆๆๆ

เฮีย ผมว่าถ้าแฟนผมเจอเฮียนี่มีสิทธิแว๊กใส่ 555 ก้อเฮียเล่นเอาอะไรมายั่วแล้วยั่วอีก 555

.... แต่เสร็จเฮีย เอ๊ย! เอ๊ย! เอ๊ย! เสร็จกับของในร้านเฮีย (ไม่ใช่ตามมุมเฟอร์หรือโซฟาน่ะครับ 555) ก้อดีกว่าเสร็จขาวๆอวบๆเน้อ 555

555 ตายๆๆๆ งานนี้ผมว่าพี่ธนวัฒน์คิดหนักเลยครับ

ถ้าสนใจเจ้า Jeckin Float QA บอกผมได้เลยครับ ผมจัดการสั่งให้พี่แบบรวมกันมา แล้วแชร์ค่าใช้จ่ายกัน ไม่มีการบวกกำไรกันเลยล่ะครับ เพราะถือว่าร่วมชะตากรรมเดียวกัน 555

แหมแต่คนที่มีแอมป์เหลือ น่าสนใจมากครับ

และถ้าป๋ายศจะเอาด้วย ก็สามารถแจ้งได้เลยครับ ผมว่าจะโอนสตางค์วันอังคารล่ะครับ 555

หลังจากที่คุยแล้ว เค้าแจ้งว่าตอนนี้ jeckin float เป็นตัวที่ผลิตจริง และเป็นเวอร์ชั่นจำหน่าย ไม่ใช่ตัว prototype แล้วครับ

หน้าตาจะเป็นแบบนี้จ้าๆๆๆ

และเพาเวอร์ซัพพลายจะเป็นแบบนี้

อันนี้เป็นบั้นท้ายครับ งานทั้งหมดผลิตที่เยอรมันแบบ hand made ล้วนๆๆครับ

เค้าแนะนำว่าถ้าอยากใช้ให้เลือกหาแอมป์ Quad 303 หรือ Quad 405 ก็ได้ เค้าบอกว่าแอมป์ที่ใช้ขยายสามารถเลือกได้อิสระ แม้กระทั่งจะเลือกแอมป์หลอดมาขับก็ยังได้

ซึ่งถ้าเจ้านี่มาจริงๆๆ ผมจะเตรียม Woo WA5 ซึ่งสามารถขับลำโพงได้ เอามาใช้ขับให้ทุกท่านได้ฟังคู่กับเจ้า Jecklin Float นี่ด้วยครับ รับรองหยาดย้อยแน่ๆๆงานนี้ 555

นี่เลย จัดด้วย Woo WA5 ขับโลดๆๆๆ 555

เฮีย ผมเคยนั่งคิดน่ะครับว่าหูฟังราคาเท่ารัยถึงจัดว่าแพง ... ถ้าพูดถึงราคาแบบ absolute term ราคาขนาด Jecklin Float นี่แพงสุดๆครับ หูฟังบ้าอะไรน่าตาน่าเกลียดแถมราคาหกหลัก!!! หูฟังตัวที่ราคามากกว่านี้ มีอยู่นับได้ (ไม่รวมพวก Collectable Items ที่พี่เกียรติชัยมีอยู่ในครอบครองน่ะครับ)

แต่ถ้าเราเป็นคนเล่นหูและรักการฟังเพลงและคิดว่าจะได้มีโอกาสฟังฟังอยู่กับที่อาทิตย์ละหลายๆชม (คงแบก Power Supply กะแอมป์ออกไปไหนต่อไหนไม่ได้แน่ 555) .... ผมก้อว่าหกหลักก้อไม่จัดว่าเกินไป แต่ที่แน่ๆจะต้องมี Source กับแอมป์ดีๆก่อนแล้วน่ะครับ ไม่งั้นโดนค่า Source กะแอมป์ไปอีกหกหลักก้อหน้ามืดกันพอดี 555

ผมคิดงี้ครับ ถ้า 2 ปีข้างหน้าผมมีโอกาสนั่งฟังเพลงอยู่กับที่สักอาทิตย์ละ 3-4 ชม เท่ากับว่าค่าน้องแจ็กกี้ราคาจะอยู่ชั่วโมงละ 216 บาท (สมมุติค่าตัวน้องแจ็กกี้หักคอเฮียได้ 90,000 บาทหารด้วย 4 ชม/อาทิตย์ หารด้วย 52 อาทิตย์ต่อปี หารด้วย 2 ปี) ราคาแพงกว่าดูหนังประมาณร้อยบาทเศษๆต่อชั่วโมง (สมมุติค่าตั่ว 160 บาทต่อหนัง 1 เรื่อง 90 นาที) ดูแล้วราคาขนาดนี้น่าจะคุ้มการลงทุนอยู่ ...

... แต่ยังงัยก้อตามราคาขนาดนี้มันเอาเรื่องอยู่ ต้องดูหน้าดูหลังให้ดีๆว่าพอมีตังส์เหลืออยู่ที่ไม่ได้ใช้ทำอะไรสักก้อน และต้องใจรักจริงๆหล่ะครับ :)

.... ที่พูดมาทั้งหมดคืออยากได้ครับ และพยายามพาเหตุผลในการซื้อให้ตัวเองอยู่ 555

555 หาเหตุผลเสร็จแล้วแจ้งผมได้เน้อๆๆๆ

เอ้า มีท่านอื่นไม๊ครับ ผมรับแค่ 2 ท่านเท่านั้นจ้า เพราะกะจะสั่งซัก 3 ชุด ราคาไม่ถึงแสนหรอกครับ น่าจะตามที่พี่ธนวัฒน์คำนวนไว้ เผลอๆๆต่ำกว่าครับ เอ้า ใครจะลุยแจ้งมาได้เลยจ้าๆๆ

เห็นป๋ายศแว๊บๆๆ ไม่รู้ป่านนี้หาเหตุผลได้หรือยังก็ไม่รู้ 555

ผมโอนเงินวันอังคารหรือพุธนี้จ้าๆๆ

^
^
ราคาดีมากครับ แต่น้ำหมึกหมด พิมพ์แบ๊งค์ไม่ทันครับเฮีย

555 ไม่เป็นไรครับป๋า สะดวกพิมพ์แบ๊งค์รอบใหม่เมื่อไหร่ค่อยบอกผมได้จ้าๆๆๆ ใจเย็นๆ ค้่อยๆพิมพ์ รอจนหมึกแห้งสนิทก่อนก็ยังทันครับ 5555

สงสัยผมคงต้องสั่งมาชุดเดียวโดดๆๆก่อนเพื่อเป็นเดโมให้ฟังกันก่อนนะคร้าบบบ

^
^
ผมกลัวตอนหมึกมาแล้ว แต่กระดาษดันหมดอีกครับเฮีย 5 5

ปล.เมื่อวานเจอเสี่ยM บอกรับไม่ได้เรื่องหุ่น+หน้าตาไม่ผ่านครับเฮีย ^ ^!

555 มุขอันนี้ใช้ได้ หมึกมากระดาษหมด หมึกครบกระดาษครบ แท่นพิมพ์ดันจำนำไปอีก อดพิมพ์กันพอดีงานนี้ 555


ตัวนี้ผมมั่นใจว่าไม่ประสบความสำเร็จเรื่องยอดขายอย่างแน่นอนครับ คนที่ซื้อไปคงต้องแอบๆใส่อยู่ในห้องนอน เผลอๆๆต้องรอเมียหลับถึงจะหยิบออกมาฟัง 5555

แต่พูดในแง่ความฮือฮาและสุ้มเสียง รับรองมีให้ทุกท่านได้เดินทางมาลองฟังกันเล่นๆที่มั่นคงเรือธงแน่นอนจ้าๆๆๆ 555

ผมคิดกติกาไว้แล้ว ใครมาฟังเจ้า Jecklin Float QA ผมขออนุญาตถ่ายรูปขณะสวมหูฟังอยู่ แล้วอัดลงกระดาษติดไว้ที่ร้านเรือธงเท่านั้นเองครับ 5555

พระเจ้าเมื่อกี้คุยกับเฮีย พูดอะไรไปเนี่ย .... แต่ลูกผู้ชายพูดไปแล้วไม่มีคืนคำครับ ให้ตายก้อไม่คืนคำครับ 555 .... จริงๆแล้ว ต้องขอบคุณเฮีย ทำให้ผมมีขออ้างกะตัวเอง .... กะลังร่ายแม่น้ำทั้งหกหาเหตุผลในการตัดสินใจอยู่เลย 555

จริงๆที่แพงมากๆอันนึกคือการซื้อรถครับ .... ซื้อรถคันนึงใช้ไป 5 ปีนี่ได้ทาวน์เฮาส์นึงเลยครับ ไม่ต้องคิดถึงค่าน้ำมัน ค่าซ่อม ค่าประกัน จิปาถะ ทั้งหลายทั้งแหละ ... รถราคาล้านนึง ค่าเสื่อมก้อวันละกว่า 200 บาทแล้วครับ


เกาะบอร์ดเฮียเล่นหูต่อดีกว่า 555

เออ พอคิดเฉลี่ยอออกมาก็ไม่แพงนะ 216 บาท
ถูกกว่าไปอาบน้ำแถวรัชดาอีก

เอ้า มาอัพเดทข่าวให้ทราบครับ หลังจากที่โยนหินถามทางไปรัชดา

ปรากฏว่าตอนนี้ เจ้า Jecklin Float QA มีผู้ร่วมอุดมการณ์ 3 ท่านแล้วครับ เป็นออปชั่นพิเศษคือเป็นโครงการไม่แสวงกำรี้กำไรล่ะครับ ได้มาเท่าไหร่ก็มาหารกันว่างั้นครับ 555


มีผู้ที่จัดมา 3 ท่านดังนี้

1. ตัวผมเอง
2. พี่ธนวัฒน์
3 ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม ประสงค์ออกแต่สตางค์อย่างเดียว


ผมจะดำเนินการโอนเงินไปเยอรมันวันพุธนี้ล่ะครับ และท่านใดที่เกิดสนใจขึ้นมากระทันหัน สามารถแจ้งผมได้นะครับ เพราะตอนนี้วินมอไซด์มั่นคงครบ 3 ท่านแล้ว แต่สามารถรับเพิ่มได้อยู่จนถึงพรุ่งนี้กลางคืนจ้าๆๆๆ 5555

พกไม่ได้+หน้าตาขนาดนี้ แถมเฮียยังจะถ่ายรูปไว้อีก ขอผ่านก่อนครับ^ ^

โอ้ว พี่ธนวัฒน์ ในที่สุดก็ถึงจุดหมายปลายทางซ่ะเเล้ว..... เเล้วผมจะหาอะไรมาขายพี่ต่อละทีเนี้ย

มุขขำๆๆล่ะครับที่จะถ่ายรูปไว้ แต่ถ้าใครอยากถ่ายผมจะถ่ายให้ท้ันทีเล้ยยยย 555

กำลังจะไปไถ่แท่นพิมพ์ครับเฮีย 5 5

ถ้าไถ่มาทันบอกได้เน้อๆๆๆๆ

น้องหลุยส์ไม่ต้องห่วงหรอกว่าจะไม่มีอะไรขายผม ตอนผมจัด LCD2Rev2 ก้อว่าน่าจะจบ แต่ก้อมาโดนสาย Clear ..... จัด Clear แล้วน่าจะจบ ก้อมาโดน ALO 555 คิดไปคิดมาก้อล่อไปพระราม 5 พระราม 6 แล้ว 555.... ส่วน DAC/Amp ก้อโดนมาตลอดทางแล้ว ตอนนี้ก้อยังทำท่าจะโดนอีก .... เรียกว่าถ้าเป็นนักชก โดนมาขนาดนี้หมอไม่รับเย็บแล้ว 555

.... แต่ผมว่าถ้าน้องแจ็กกี้เสียงมาจริงตามตำนาน น้ำหนักเบา ใส่สบาย สงสัยว่าชุด LCD จะกระเด็นเข้ากรุซะหล่ะมั๊ง 555

ป๋าวีระอยู่หน๋ายยยยยยยยคร๊าบบบบบบบบบบบบ

พี่ Tanawat ถ้าไปน้องแจ๊คกี้แล้วไม่มีที่เก็บ LCD2 ล่ะก็บอกได้นะครับ 5555

555 มีคนสนใจด้วย ถ้ารับต้องรับหมดน่ะครับ ทั้งหูทั้งสาย 555

ตอนนี้คอนเฟิมแน่นอนว่าเบื้องต้นมีผู้กล้าตายรวมทั้งผมด้วย สั่งไปจำนวน 3 ชุดครับ คราวนี้ล่ะสนุกสนานเลย เพราะผมจะเอาแอมป์หลอดเจ๋งๆอย่างแบรนด์ VTL มาขับเลยครับ(ยืมเค้า) 555

พี่ธนวัฒน์กับพี่อีกท่านนึง รอได้เลยครับ นานหน่อยแต่มาแน่ๆๆคร้าบบ 555

เห็นว่าเค้าจะเปิดตัวในเดือนเมษายน ในงานอะไรซักอย่างที่อเมริกาครับ และเวอร์ชั่นที่เราจะได้นี้ เป็นเวอร์ชั่น completed ครับ คือเป็นตัวที่จะผลิตขายจริงๆๆแล้ว ไม่ใช้ prototype นะครับ ^^

โอ้! เมษาเลยเหรอเฮีย จะมาก่อนสงกรานต์มั๊ยเนี่ย จะได้ใส่ออกไปเล่นน้ำ ท่าจะเท่ห์ดี 555

ถ้ามา ผมขอไปฬัง completed version ด้วยได้ไหมครับ
ดูว่าจะต่างจากตัวเดิมอย่างไรบ้าง

ถ้าขนไปได้จะขออนุญาตเฮียเอา Orpheus + Aristaeus ไปทาบ เทียบกันดู
ได้ไหมครับ

อืมมมมมม ..... ถ้ามีโอกาสเจอพี่เกียรติชัย จะขอเอา Orpheus วางบนศีรษะเป็นบุญหัวหน่่อย 555

เห็นว่าเค้าจะเปิดตัวในเดือนเมษายน ในงานอะไรซักอย่างที่อเมริกาครับ และเวอร์ชั่นที่เราจะได้นี้ เป็นเวอร์ชั่น completed ครับ คือเป็นตัวที่จะผลิตขายจริงๆๆแล้ว ไม่ใช้ prototype นะครับ

! เมษาเลยเหรอเฮีย จะมาก่อนสงกรานต์มั๊ยเนี่ย จะได้ใส่ออกไปเล่นน้ำ ท่าจะเท่ห์ดี 555

จะมีงานเครื่องเสียงที่นิวยอร์คครับ เป็น New York Audio Show

New York, NY, Jan 24, 2013 – The magic of high performance audio takes center stage at the New York Audio Show, April 12 – 14, 2013 at the New York Palace Hotel. Along with demonstrations from more than 75 companies, the show will host a number of special events including the exclusive sneak preview and private screening of Last Shop Standing - the official Record Store Day Film for 2013, and the Classic Album Sunday listening experience

New Jecklin Float QA จะไปเปิดตัวที่อเมริกาในงานนี้ครับ
แต่อาจต้องทำใจไว้ครับว่าอาจช้ากว่าเมษายน เพราะตอนที่ผมสั่งเขาไปคราวที่แล้ว เป็นล็อตที่สอง (หลังจากที่ล็อตแรก อยู่เฉพาะในเยอรมันและยุโรปเท่านั้นเพราะขายหมด) Manfred บอกว่าใช้เวลาประมาณสองเดือนจึงจะได้ แต่เอาเข้าจริง ๆ ก็ใช้เวลาทั้งหมดประมาณสี่เดือน ชุดนี้น่าจะเป็นล็อตที่สาม

ถ้ามีโอกาสเจอพี่เกียรติชัย จะขอเอา Orpheus วางบนศีรษะเป็นบุญหัวหน่่อย 555

ยินดีครับ จริง ๆ ถ้าเฮียอนุญาตผมอาจเอาไปวางให้เฮียเฝ้าสักระยะหนึ่งก็ได้
ไม่ใช่อะไรหรอกครับ จะได้ช่วยกันฬังและวิจารณ์ว่าเป็นอย่างไรบ้าง มีคนถามบ่อย ๆว่าเป็นอย่างไร ผมก็ตอบไม่ถูก รู้แต่ว่าฬังแล้วดีกว่าตัวอื่น ๆ ตรงส่วนไหนได้คร่าว ๆ แต่ถ้าแยกเอารายละเอียดก็คงบอกไม่ได้ ก็คงขอความเห็นหลาย ๆ คนช่วยบอก

ชุดที่ผมคิดว่าเสียงดีกว่าชุดอื่น ๆ น่าจะเป็น Orpheus หรือ SR009 + Aristaeus, takeT H2+ vs new Jecklin Float QA และถ้าหูฬังไดนามิคน่าจะเป็น Sony MDR R10 + EAR HP4 (Balancing Act แบกไปไม่ไหว) แต่คนละสไตล์ แล้วแต่คนชอบ ชุดพวกนี้พอแบกได้เพราะไม่หนักมากเช่น Aristaeus amplifier ตัวเล็กนิดเดียว แต่เป็นแอมป์หูฬังที่สวยงามที่สุดตัวหนึ่งในความคิดของผม ตัวนี้ต้องใช้เวลารอประมาณสองปีหลังจากสั่งจึงได้ของ ทั่วโลกมีเพียงสิบสามตัวเท่านั้น เป็นแอมป์ที่ดีที่สุดในการขับ Orpheus เลียนแบบแต่ดีกว่า HEV90
EAR HP4 ก็ตัวไม่ใหญ่ครับ สวยงามเช่นเดียวกัน

เดี๋ยวของมา พี่เกียรติชัยเอาของผมไปฟังก่อนได้เลยครับ ... เบื่อแล้วค่อยส่งกลับมา อันนี้ถือเป็นการเจิมหูฟังให้ผมน่ะครับ 555 จริงๆต้องบอกว่านับเป็นบุญของหูฟังผมครับ เพราะจะได้มีโอกาสกับของเทพๆของพี่ครับ กลับมาอยู่กับผมคงได้เจอแต่ของพื้นๆครับ 555

แจ้งข่าวครับ ตอนนี้หูฟัง New Jecklin Float QA เดินทางมาถึงไทยแล้วครับ พรุ่งนี้ผมจะรีบดำเนินพิธีการทางศุลกากรโดยด่วนที่สุด และจะรีบแมทชชิ่งกับแอมป์ให้ได้

ถ้าทุกอย่างพร้อม ได้ฟังกันที่แรกในงานเครื่องเสียงที่ไบเทคนี้แน่นอนจ้าๆๆๆ

งานมีเมื่อไรหรือครับ
จะได้หาโอกาสไปลองฬังด้วย ไม่ทราบว่ามีแสดง vinyl setup
ด้วยหรือไม่ครับ

ตอนนี้เช็คจาก tracking มันถึงไทยแล้วครับพี่เกียรติชัย (แต่ยังไม่ถึงมือผม) ถ้าเซ็ททันก็น่าจะได้ฟังกันในงานเลยครับ งานจัดที่ไบเทค วันที่ 28-329-30-31 มีนาคมนี้ครับพี่

ผมอยู่บู๊ท A13-A14 ครับ ส่วนไวนิลไม่ได้จัดไปครับพี่ ^^

มีบูธอื่นแสดงไวนิลด้วยไหมครับ เพราะเคยให้สมาชิกช่วยหาให้ชุดหนึ่ง
แต่รู้สึกว่าจะไม่มีผลิตแล้ว เลยจะไปลองดูแบบอื่นด้วยครับ
คงไม่ต้องเอา Orpheus ไปเทียบนะครับ

และจะฝากเอา AK100 ไป format ให้ใช้ขนาด 64GB ด้วยได้หรือไม่ครับ
มีโปรแกรมเปลี่ยน format อยู่ด้วยไหมครับ
Heir 5.0 มาหรือยังครับ เช่นเดียวกับ Electrostatic Kingsound

น่าจะมีบูธแสดงไวนิลครับพี่ ส่วน orpheus ไม่ต้องยกมาครับพี่ เมื่อยเปล่าๆๆ 555 (คนละดิวิชั่น) 555

ส่วน AK100 ผมให้เจ้าหลุยส์จัดการให้ได้ครับพี่ และ Heir 5.0 น่าจะมาทันงานพอดีครับ
ส่วน KingSound นั้น น่าจะมาต้นเดือนเมษาพอดีๆๆครับพี่ 55

ว๊าก ว๊าก ว๊าก! จะมาแย้วเหรอ เดี๋ยวต้องรีบไปซื้ออีโต้ไปเดินเล่นตามห้างก่อน .... เอาบิ๊กซีหรือโลตัสดีน้อ 555

เซ็นทรัลดีกว่าครับพี่ธนวัฒน์ น่าจะได้เยอะกว่า 5555

เมื่อวานไปเซ็นทรัลตามที่แนะนำ ^^^ ไม่เพียงแต่ไม่ได้อีโต้ ..... เสียทรัพย์สินไปอีกเพียบเลย 555

.... จะให้ไปรับน้องแจ็คกี้เมื่อรัยก้อกริ๊งกร๊างมาได้ครับ คงต้องจัดเครื่องอัฐบริขารด้วยครับ .... ที่แน่ๆคงต้องจัดสายกระโดด (Jumper) หล่ะครับ

แจ้งข่าวคร้าบบ ตอนนี้น้อง Jecklin กำลังเดินทางมาถึงไทยแล้ว น่าจะวันที่ 2 พฤษภาคม มีลุ้นถึงแน่นอนจ้าๆๆๆๆ

เดี๋ยวรีบแจ้งอีกทีนะคร้าบบบ 555

มาตอนไม่มีทรัพย์จะจ่ายนะเฮีย >.<

เมื่อวานมาครบๆแล้วครับ ส่งมอบให้กับพี่ ธ และพี่ ว เรียบร้อยล่ะ 555

ตอนนี้ฬังเทียบ Jecklin float QA + Zotl ZH230 vs SR009 + Aristaeus Amplifier ใช้แผ่น SACD Celine Dion All The Way : A Decade of Song Japan Import ตอนใช้ SR009 ก็รู้สึกเพราะมาก แต่พอใช้ new Jecklin พบว่าดีขึ้นไปอีก มี transparency, resolution สูงกว่าชัดเจน ระบบของผมเสียงเบสยิ่งกว่าโอเค
ตอนนี้ไม่ค่อยได้ฬัง Orpheus มากนัก (ขี้เกียจแกะกล่อง)

555 ขอบคุณสำหรับประสบการณ์ที่เล่าให้อ่านกันครับพี่ ตอนนี้เจ้าของใหม่ 2 ท่านรับของกันไปเรียบร้อยแล้ว เมื่อวานท่านนึงจัด jumper กันไปชุดใหญ่ๆๆ ป่านนี้ยังไม่โผล่มาเล่าเลยครับ สงสัยกำลังง่วนอยู่เลยล่ะครับ

ขอบคุณพี่เกียรติชัยมากๆๆครับ ที่กรุณาชี้เป้าให้ตลอดนะครับพี่ 55

แถมภาพนึงกับ jecklin Float ในงานที่นิวยอร์คเมื่อเดือนก่อนนู้นครับ

สุดๆจริง หูฟังตัวนี้

555 ยกมาแล้ว ... ฟังมาหลายวันแล้ว ... เริ่มเข้าที่เข้าทางแล้ว .... คืนนี้มาเล่าให้ฟังครับ ถถถ

ผมหนะก็อยากได้นะครับพี่ธนวัฒน์แต่ไอ้บริษัทนี้มันค่อนข้างจะโรคจิตนิสนึงคือ headband เนี่ยปรับไม่ได้เลย คือประมาณว่ามันติ้งต่างว่าทุกคนหัวเท่ากับเจ้าของหมดใครหัวยาวหละหมดสิทธิ์ฟังแน่นอนครับ ของผมเวลาฟังเนี่ยเหมือนเสียงจะลอยๆเหนือหัวยังไงชอบกลหละคร้าบบบบบ

ตอนนี้เมืองไทย มี 4 เซ็ทเน้อๆๆๆๆ 555

คุณดิว ผมใส่ก็ลอยๆอยู่เหนือหัวเป็นวงแหวนของเทวดาเหมือนกันเลยครับ 555 ผมว่ามันเป็นดีไซนด์ของเค้าหล่ะมั้ง ....แต่ก็ดีครับ สบายหัวดี ใส่แล้วเหมือนไม่ได้ใส่ 555

จริงๆแล้วผมไปอุ้มน้องแจ็คกี้ New Jecklin Float QA จากเรือธงมาตั้งแต่กลางสัปดาห์ที่แล้วแล้วครับ ตอนไปไม่ได้คิดอะไรกะไปเดินเล่นครับ แต่ปรากฏว่าน้องแจ็คกี้ New Jecklin Float QA มาถึงอมรินทร์พอดี เลยได้อุ้มน้องเค้ากลับบ้านพร้อม Nordost Norse Jumper แบบงงๆครับ 555

... ตอนกลับมาถึงบ้านวันแรกก้อยังงๆอยู่เลยยังไม่ได้แกะกล่องครับ … วันรุ่งขึ้นหายงงเเลิกงานเลยรีบบึ่งกลับบ้านแต่หัววันไปแกะน้องเค้าขึ้นหิ้ง …. ตอนเปิดกล่องยังนึกอยู่เลยครับว่าอีตา Joerg Jecklin นี่ แกออกแบบหูฟังยังงัยถึงหน้าตาแปลกประหลาดปานนี้ 555 ตาลุง Joerg Jecklin นี่แกออกแบบ Jecklin Float รุ่นแรกตั้งแต่ปี 1971 หรือกว่า 40 ปีมาแล้วครับ หนุ่มๆดูแกหน้าตาหล่อเหลาใช้ได้ครับ จะแพ้ก็แต่เฮียมั่นสุดหล่อของเรานี่หล่ะ 555



ผมว่าตาลุง Joerg Jecklin นี่มีบทบาทอย่างสูงต่อหูฟัง Electrostatic รุ่นต่อๆมาอย่างมาก ดังนั้นจะเห็นได้ว่าได้รับอิทธิพลรูปลักษณ์ที่เหมือนแผ่นกอเอี๊ยขนานจัมโบเอปิดหูกันไปอย่างทั่วถึง 555 ... ดังนั้นจะว่า New Jecklin Float QA หน้าตาแปลกก็ไม่เชิง เพราะหูฟัง Electrostatic ส่วนใหญ่ก็หน้าตาแบบว่า …. อ่ะน่ะ

ตัวผมนี่เมื่อก่อนบ้านนอกครับ ไม่เคยรู้ว่าของแปลกประหลาดแบบนี้มีในโลกด้วย จนกระทั่งได้อ่านกระทู้เกี่ยวกับ Jacklin Float ที่โพสต์โดยพี่เกียรติชัยอ่ะครับ

…. พอผมได้อ่านกระทู้พี่เค้าแล้วเกิดแรงบันดาลใจ เกิดอาการครั่นเนื้อครั่นตัว อยากเสียตังส์ ประจวบกับเฮียเชียร์ขึ้นเปิดรับจอง New Jecklin Float QA สะงั้น ผมเลยตกกระไดพลอยโจนเข้าขื่อจองไปด้วย 555

การต่อน้องแจ็คกี้ New Jecklin Float QA นี่อาจจะดูวุ่นวายสักเล็กน้อยครับ คือไม่สามารถต่อจาก Source ได้โดยตรง จำเป็นจะต้องมีแอมป์และเพาเวอร์ ซัพพลาย (หรือทรานฟอร์เมอร์) มาขั้นอีก 2 ตัว ในส่วนของแอมป์นี่ผมใช้ Ayre AX-5 ตามแบบที่เฮียใช้ตอนงาน T.H.E

ชุดที่ผมใช้กับ Jecklin Float ก็ตามรูปที่โพสต์ข้างบนเลยครับ คือประกอบด้วย

- สาย CD: Moon 230 CD player > Nordost Fery II RCA > Ayre AX-5 > Nordost Norse Jumper > Power Supply
- สาย Computerphile: Xtreamer Ultra II Mini PC > Nordost Blue Thunder USB > Ayre QB-9 > Nordost Blue Heaven XLR > Ayre AX-5 > Nordost Norse Jumper > Power Supply

สายไฟที่ใช้เป็น Nordost Blue Heaven ทั้งหมดยกเว้นเส้นที่ใช้กับแอมป์ Ayre AX-5 เป็น
Heimdall II ครับ ชั้นวางก้อใช้ชั้น The X-Men Shelf ของหมูหวานครับ ชั้น X-Men นี่ดีทีเดียวครับแต่เดิมผมวางเครื่องเสียงบนชั้นเฟอร์นิเจอร์ไม้ทั่วไป พอเปลี่ยนมาใช้ชั้น The X-Men Shelf รู้สึกได้ทันทีถึงความสงัดและชิ้นเครื่องดนตรีที่มีรูปทรงที่ชัดเจนขึ้นครับ ส่วนสาย AC นี่ไม่ต้องพูดถึงครับ Blue Heaven ของ Nordost นี่แจ่มอยู่แล้วครับ ให้รายละเอียดดี มิติเด่น เสียงปลายแหลมทอดยาวและละเอียด คุมเบสได้ดี สำหรับ Nordost Heimdall II นี่เป็นส่วนเกินในระบบครับ คือ เค้าให้ยืมมาลองครับ … ตอนนี้ยังอยู่ในช่วง Honeymoon ครับ แต่ส่วนใหญ่ใครให้ผมยืมอะไรมาก้อจะโดนผมยึดหมด เรียกว่ามีแต่เข้าไม่มีออกครับ 555 ดังนั้นเจ้าของสายไฟ Heimdall 2 เตรียมตัวเตรียมใจได้ครับ โอกาสที่ท่านจะได้สายคืนนี่เกือบๆจะติดลบครับ 555

สำหรับชั่วโมงแรกของผมกับน้องแจ็คกี้นี่เป็นการเตรียมความพร้อมล้วนๆครับ ประมาณว่าเริ่มตั้งแต่แกะกล่อง จัดเรียงขึ้นชั้น ต่อสายไฟและสายสัญญาณ จนพร้อมฟัง .... ก้อค่อยๆทำไปหล่ะครับ ตั้งแต่ค่อยๆแกะ ค่อยๆจัดเรียงขึ้นชั้น ค่อยๆไล่ต่อสายต่างๆ ... มันก้อมีความสุขไปอีกอย่างครับ

น้องแจ็คกี้ Jecklin Float นี่เป็นหูฟังแบบ Electrostatic ครับ นับเป็นญาติพี่น้องหมู่บ้านติดกันกับหูฟังตระกูล Plana Magnetic แบบ Audeze ข้อได้เปรียบของหูฟังแบบ Electrostatic น่าจะเป็นเรื่องความละเอียดของเสียงหล่ะครับ … อีกยี่ห้อที่เป็น Electrostatic ที่มีชื่อเสียงโด่งดังทั่วโลกมายาวนานก้อคือ Stax ครับ .... แต่ผมก็ว่าน้องแจ็คกี้ Jecklin Float นี่มีเสียงที่มีบุคคลิกของตัวเอง ไม่ค่อยจะละม้ายคล้าย Stax สักเท่าไร ชั่วโมงแรกของการรับฟัง สุ้มเสียงดูจะยังฟุ้งๆอยู่บ้างครับ เสียงทุ้มเสียงแหลมก้อดูจะยังไปได้ไม่ค่อยสุดเท่าไร ชิ้นดนตรีและตัวโน้ตดูจะยังไม่ค่อยชัดเจนสักเท่าไร แต่ความละเอียดของเสียงนี่ดูแล้วจะไม่ได้ด้อยกว่า Stax 009 ครับ และผมว่าความกว้างและลึกอาจจะทำได้ดีกว่า Stax 009 ครับ .... หลังจากเปิดเบิร์นโดยใช้แผ่น Bitter Love ไป 10+ ชมสุ้มเสียงดูจะเข้าทีเข้าทางมากขึ้นเยอะเลยครับ แต่เวลาเจอจังหวะเพลงที่เครื่องดนตรีมากันเยอะๆก้อยังสังเกตุได้ว่ายังคุมตัวโน้ตได้ไม่ค่อยดี คิดว่าน่าจะต้องเบิร์นไปอีกพักครับ คงจะต้องปักหมุดกันทุก 50 ชมซะหล่ะมั๊ง 555

ส่วนเรื่องสุ้มเสียงขอติดไว้ก่อนครับ .......ไว้คืนพรุ่งนี้จะกลับมาต่อครับ .....

ผมเห็นรูปอีตา Jecklin ตอนหนุ่มๆแล้วสะดุ้งเลยครับพี่ 555 พี่หามาได้ไง ผมหาประวัติตั้งน๊านนานๆๆ 555

เหลือเชือว่า เฉพาะหูฟังตัวเดียว แกปล้ำมากว่า 40 ปี ยังไงถ้าว่างมาเล่าต่อนะครับ

ผมจะแจ้งให้ทราบว่า ตอนนี้ลุง Jecklin แกเมล์มาบอกผมว่า ขออนุญาตเอารูปในเว็บมั่นคงไปเผยแพร่ในเว็บไซต์เค้า ซึ่งผมบอกว่าโอเคเลย อยากได้อะไรขนไปเลยล่ะครับ 555

อ้าว! พี่งเห็นว่าเบิ้ลสองเลย แสดงว่ายังแข็งแรง แตะปี๊ปดังอยู่ 555

รูปอีตา Joerg Jecklin ตอนหนุ่มๆนี่หายากอยู่ครับ .... หาเจอแล้วก็ยังต้องมีความเชื่ออีกว่าใช่รูปแกจริงๆครับ 555 แต่ถ้าพูดถึงรูปแกตอนปัจจุบันนี่ง่ายเลยครับ .... ผมว่าหน้าตาแกกลายเป็นสัญญลักษณ์ของ Jecklin FLoat ไปแล้วครับ ที่น่าสนใจอีกอย่างคือจะหารูปแกระหว่างทาง 40 ปีนี่หาไม่ได้เลยครับ หรือหาได้แล้วไม่รู้ว่าเป็นใครก็ไม่รู้ 555

แต่ผมว่า Jecklin เบียส ก้อหล่อใช้ได้อยู่น่ะ เทียบกับอีตา Joerg ตอนหนุ่มๆที่ไม่แพ้กันครับ 555



ยังงัยเดี๋ยวคืนนี้มาเล่าเรื่องเสียงให้ฟังครับ .... ตอนนี้เลย กม 50 ไปแล้วครับ

เมื่อคืนฟัง Jecklin เพลินไปหน่อยครับ! ลืมโพสต์เลย 555 ... แต่สุ้มเสียงนี่มันสมกับความเป็น Ear Speaker จริงๆครับ ระรื่นชื่นหูเหลือเกินครับ

... จริงๆตาลุงแกชื่อ Jürg Jecklin แต่วันก่อนผมหาวิธีพิมพ์ ü ไม่ได้ ..... วันนี้ไม่ต้องคิดก้อนึกออกเลย แค่ copy แล้ว paste ก้อจบ เส้นผมบังภูเขาจริงๆ 555



.... ตาลุง Jürg Jecklin นี่แกเคยเป็น Chief Sound Engineer ของ Swiss Radio ครับ นอกจากหูฟังทรงสุดแปลก New Jecklin Float QA แล้ว แกยังคิดโน่น นี่ นั่น หลายอย่างทีเดียว .. แต่เท่าที่ดูแล้วสิ่งที่ตาลุง Jürg Jecklin คิดค้นคงไม่มีอะไรหน้าตาประหลากเท่าเท่าหูฟัง Jecklin Float แล้วครับ 555

.... ยังงัยเดี๋ยวคืนนี้มารายงานตัวเรื่องเสียงหลัง 50 ชมครับ :)

555 เมื่อวานผมนึกได้ เลยเข้าไปหาชื่อลุง jecklin ครับ และก็เสิร์ชแบบที่พี่ทำนั่นล่ะครับ 555

ความที่เป็นโรคเลื่อนมาสองสามวันทำให้ระยะเบิร์นของหูฟังเพิ่มจาก 50+ ชม เป็น 100+ ชม แล้วครับ ….. ตอนนี้เริ่มเห็นจุดหมายปลายทางแล้วครับว่าอีกยาวไกลครับกว่าน้องแจ็คกี้ New Jecklin Float QA จะเข้าที่เข้าทาง 555 … จากวันแรกที่แกะกล่องฟังจนถึงวันนี้ผมว่าแนวเสียง (characteristic) ของ Jecklin Float นี่ไม่ได้เปลี่ยนปแลง แต่ที่ต่างไปคงเป็นเรื่องการตอบสนองต่อเสียงที่ทำได้ดีกว่าเดิม … ปลายแหลมทอดยาวกว่า ชม แรกมากพอควร … เสียงทุ้มก้อมาเป็นลูกๆแบบกระชับขึ้น เหมือนว่ามีใครแอบไปขึงหนังกลองให้ตึงขึ้นครับ … รายละเอียดเสียงดีกว่า ชม แรกมากหลายครับ … เสียงร้องหญิงอาจจะไม่อวบหวานมากนัก แต่ก้อพอจะให้หนุ่มๆตาละห้อยได้ครับ … การคุมดนตรีและตัวโน้ตก้อทำได้ดีขึ้นกว่าวันแรกๆครับ … อีกอย่างที่สังเกตุได้คือรายละเอียดต่างๆนี่มาหมดครับ สียงโน่น นี่ นั่น ที่เราไม่เคยสังเกต ไม่เคยได้ยิน จะโดย New Jecklin Float QA นำเสนอให้เราได้ยินอย่างครบครันครับ และที่น่าแปลกจ คือ รายละเอียดที่มาเยอะมาเต็มนี่มันไม่ได้ทำให้เรารู้สึกว่ามัน “เยอะไป” แต่กลับทำให้เราได้อรรถรสในการฟังมากขึ้นครับ …. แต่จริงๆแล้วผมก็ไม่ค่อยแน่ใจว่าที่เบิร์นแล้วดีขึ้นนี่เป็นเพราะอุปทานหรือมาจากการเบิร์น Jumper กับ Power Supply เพราะตัวหูฟัง Electrostatic เองเท่าที่เคยอ่านมาการเบิร์นไม่น่าจะมีผลอะไรมากมาย 555



…. วันนี้ผมเปิดวงด้วยนักร้อง + แผ่นในตำนาน เมื่อสัก 20 ปีที่แล้วถ้าพูดถึงแผ่นที่บันทึกเยี่ยม นักร้องและดนตรีคุณภาพรับรองว่าแผ่นนี้ต้องได้รับการพูดถึงแน่นอนครับ แผ่นที่ผมพูดถึงคือ Amanda (แผ่นรวมเพลง) ใน Reference Series ของ Sheffield Lab ครับ เสร็จแล้วผมยังไม่ย้ายค่ายต่อด้วย Let It Go ของ Clair Marlo เลยครับ แผ่นนี้เป็น Perform Live to Two-Track ธรรมดาตามมาตรฐานของ Sheffield Lab ไม่ใช่ Reference Series ต้องบอกว่า New Jecklin float ถ่ายทอดทั้งสองแผ่นออกมาได้ดีมากๆครับ ….. นานมากแล้วที่ผมไม่ได้มีโอกาสฟังเสียงร้องของ Clair Marlo และ Amanda เพราะขนาดนี้ ….. ดูๆแล้ว Jecklin Float น่าจะไปได้ดีกับคนตรีค่าย Sheffield Lab พอควรเลยครับ เปิด track ไหนฟังดูจะเพราะไปหมด อาจจะเป็นที่ Jecklin Float ถ่ายทอดไดนามิคและอิมแพ็คและรายละเอียดต่างๆของค่าย Sheffield lab ออกมาได้ค่อนข้างสมบูรณ์ก้อได้ครับ




แผ่นที่สามที่ผมเลือกสำหรับคืนนี้จะเป็นแผ่นทดสอบของ Burmaster Art For The Ear 3 เป็นแผ่นปกดำครับ แผ่นนี้ไดนามิคและอิมแพ็คก้อยอดเยี่ยมเช่นกันครับ บันทึกมาดีมารายละเอียดที่ยอดเยี่ยม และมีเพลงหลากหลายรูปแบบให้ลองฟัง สำหรับแผ่นนี้ต้องบอกว่าโดนไปตลอดทางหล่ะครับ โดนมันไปเสียทุกเพลงครับ เพลงร้องก้อแจ่มมาก เปิดมาเพลงแรก A Time For Love เสียงร้องของ Melissa Walker กังวาลมีพลัง ช่วงเร่งเสียงจากเบาไปดังหรือผ่อนเสียงจากดังมาเบาทำได้ดีมา เสียงร้องลื่นไหลต่อเนื่อง ฟังแล้ว “หลงเสียงนาง” เลยครับ 555 สำหรับแทรค The Planet เสียงร้องของ Hans Theessink นุ่มนวลแต่มีพลังดีมากครับ บรรดาแทรคที่เป็นเพลงคลาสสิคนี่ให้ความรู้สึกถึงห้องที่กว้าง ใหญ่ เวทีที่ดูจะมีมิติที่กว้างและลึกดีมากครับ ช่วงที่ดนตรีเร่งเสียง ปรับจังหวะ ทำได้ดี การแยกชิ้นดนตรีทำได้ดีกว่าชั่วโมงแรกๆแบบชัดเจนครับ แต่ผมว่ายังไม่ดีเท่าที่ควรครับ คงต้องเบิร์นอีกพักใหญ่ครับ สำหรับแทรคโปรดผม Stimela ของ Hugh Masekela ผมว่าเสียงโปร่งและบางไปนิดครับ

ถ้าถามว่าน้อง New Jecklin Float QA หลัง 100 ชม นี่พอเทียบกับอะไรได้ ... ผมว่า New Jecklin Float นี่ให้เสียงที่แตกต่างจากหูฟังรุ่นท็อปตัวอื่นๆ เช่น LCD2, LCD3, HD800, HE6 มากมาย … นาทีนี้จะให้บอกว่าอะไรดีกว่าอะไรคงยากครับ แต่ถ้าจะให้เปรียบเทียบ ผมก้อคงต้องเทียบกับหูฟัง Electrostatic ตัวบนๆหล่ะครับ อย่าง Stax ที่ผมฟังแล้วโดนแบบหมัดเดียวน็อคก้อคงเป็นตอน Woo D-Day ที่เฮียจัด จะเป็นตัว Stax 009 กับ Woo WES โดยใช้ Meridian Music Server เป็นตัวเล่นเพลง ส่วนระบบไฟก็เห็นใส่กันแบบสุดๆประมาณว่าโชว์รูมมาเองเองครับ ผมว่าชุดนี้สุดติ่งเลยครับ มันเด็ดจริงๆคร๊าบบบบบ เรียกว่าฟังแล้วแทบละลายคาโซฟาเลยหล่ะครับ ส่วนตัวยังไม่เคยฟังอะไรที่ดีกว่าครับ (จริงๆแล้วที่ว่าเด็ดๆคงมีอีกเยอะ แต่ผมบุญน้อยไม่มีโอกาสได้ฟัง 555) ราคาชุดนี้ก้อโหดสุดๆเหมือนกัน น่าจะใกล้ๆล้าน ยังงั๊ยยังงัยชุดที่บ้านผมคงไม่อาจเอื้อมขึ้นไปประกบหล่ะครับ 555 และเวลามันก็ผ่านมานานพอควรจะให้ประกบเทียบกันก็ลำบากครับ แต่เท่าทีจำได้ชุด SR009 จะให้ความละเอียดที่ดีกว่า เสียงโปร่งกว่า ออกจะติดบางๆนิดๆ ส่วน Jecklin Float มีการตอบสนองของเสียงดีกว่า เสียงแหลมดูจะไปได้ไกลกว่าแต่ความละเอียดจะสู้ SR009 ไม่ได้ ส่วนเสียงเบส Jecklin ไปได้ลึกกว่าเก็บตัวได้ดีกว่า และความที่ Jecklin ให้ความสมดุลย์ของเสียง (Tonal Balance) ที่ดีว่าให้ฟังได้นานไม่ล้าครับ และ Jecklin ดูจะให้สเต็จที่กว้างและลึกกว่า ฟังเพลินกว่า ใส่สบายกว่า….. สรุปผมว่าเฮียคงต้องจัดงาน Woo D-Day ให้ผมได้ฟัง SR009 อีกสักครั้ง 555

ขอบคณสำหรับรีวิวครับพี่ ดึกๆแล้วยังสละเวลาหลังขดหลังแข็งพิมพ์ให้ได้อ่านกัน วันนี้เปิดเผยหน้าตาแบบเต็มๆๆเลยนะครับพี่ 555

เดี๋ยวจัดใหม่ให้อย่างแน่นอนเลยครับ 555